บันทึกการเดินทางไปปักกิ่ง..ด้วยตัวเอง

day 014

เพราะโลกนี้กว้างใหญ่นัก มีอีกหลายสิ่ง หลายอย่างให้นักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา ได้เรียนรู้ ได้หาประสบการณ์ การเดินทางไปในแต่ละที่ ก็เหมือนกับการได้มานั่งห้องเรียนอีกครั้ง ต้องเรียนรู้ ต้องศึกษา หาข้อมูล เตรียมความพร้อมทำการบ้าน เพื่อให้การเดินทาง ในแต่ละครั้งราบรื่น และผ่านไปด้วยดี

การเดินทางไปเที่ยวปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีนในครั้งนี้ เราเตรียมตัว เตรียมการ นานมาก ประมาณ 4-5 เดือน เนื่องจากเสียงเล่าลือว่า ประเทศจีน ไม่ใช้ภาษาอังกฤษเลย การสื่อสาร คงลำบาก ทางที่ดีที่สุด ก็คือ หาข้อมูลให้ได้มากที่สุด ในที่สุด การท่องเที่ยวประเทศจีน ก็ผ่านไปด้วยดี เราจึงขอบันทึกการเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ เพื่อเป็นข้อมูล สำหรับเพื่อนๆ ที่ต้องการ จะไปเที่ยวปักกิ่ง ด้วยตนเอง ลองไปเองแล้วจะรู้ว่า มันสนุก มีความสุข เพราะทุกอย่างเราเป็นคนกำหนดเอง....

day 013

1. การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเยือนประเทศจีน

ฤดูกาล ในปักกิ่ง มีถึง 4 ฤดู ใครอยากไปช่วงไหน ก็ต้องเลือกตัดสินใจให้ดี เพราะฤดูกาล มีผลต่อการท่องเที่ยว เราอาจพลาดชมสถานที่ท่องเที่ยง บางแห่งได้ หากเลือกฤดูกาลผิด

1. ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มจาก เดือนกันยายน - เดือนตุลาคม
อุณหภูมิจะอยู่ในช่วง 14°C - 26°C หรือ ในเดือนตุลาคม ก็จะประมาณ 7°C-19°C
ช่วงฤดูกาลนี้ ถือว่าเป็นช่วง ไฮท์ซีซัน ของปักกิ่ง เพราะเป็นช่วงเวลาที่น่ามาเที่ยวมากที่สุด อากาศ กำลังสบายๆ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี สวยงามมากมาย ผลไม้เมืองหนาวให้ผลผลิตในช่วงนี้พอดี ทัวร์ท้องถิ่นจะจัดให้ไปเที่ยวชมและเก็บผลไม้เมืองหนาว และบรรดาทัวร์ต่างจะเลือกมาเที่ยวช่วงนี้ มากเช่นกัน แต่สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดคือ วันที่ 1 ตุลาคม เป็นวันชาติของจีน จะเป็นวันหยุดยาวของคนจีน อาจยาวถึง 2 สัปดาห์กันเลยทีเดียว สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะเต็มไปด้วยคลื่นมนุษย์คนจีน โดยเฉพาะกำแพงเมืองจีน การถ่ายรูปให้สวย เป็นเรื่องที่ลำบากแสนเข็ญที่สุด และที่สำคัญที่สุด ราคาค่าผ่านประตูเข้าชมสถานที่ ท่องเที่ยวจะเพิ่มสูง เช่น จาก 40 หยวน ก็จะเป็น 60 หยวน ทันที นั่นหมายความว่า ราคาทุกอย่างที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสูงขึ้นทั้งสิ้น

day 017

2. ฤดูหนาว เริ่มจาก เดือนพฤศจิกายน - เดือนมีนาคม
อุณหภูมิจะอยู่ในช่วง 0°C - 10°C หรือ ในเดือนธันวาคม ก็จะประมาณ -7°C-3°C
ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ใครที่ชอบความหนาวเหน็บ อยากเจอหิมะ ก็ต้องเลือกช่วงนี้ โดยเฉพาะ ช่วงปลายเดือนธันวาคม เป็นต้นไป ได้เจอแน่ ฤดูหนาวของจีน ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานหลายเดือนทีเดียว ข้อดี ของการท่องเที่ยวช่วงนี้ก็คือ ราคาทุกอย่างที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว จะร่วมใจกันลดราคา ลงมา ไม่ว่าจะเป็น ค่าตั๋วเครื่องบิน, ค่าที่พัก , ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว ฯลฯ
** สำหรับเราเลือกช่วงฤดูหนาว**
เทคนิคก็คือ เลือกช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน คือช่วงวันที่ 1-15  เพราะยังอยู่ในช่วง เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี ( 15 ตุลาคม - 15 พฤศจิกายน ) สถานที่ท่องเที่ยวยังสวยงามด้วยใบไม้หลากสี แต่เพิ่มความหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น แต่ราคาการท่องเที่ยวกลับถูกลดราคา แถมช่วงที่เราไป โชคดีมาก ได้เจอกับหิมะ ในเขตมณฑลทางเหนือของปักกิ่ง เป็นของแถม คุ้มค่าสุดๆ

day 019

3. ฤดูใบไม้ผลิ เริ่มจาก เดือนเมษายน - กลางเดือนมิถุนายน
อุณหภูมิจะอยู่ในช่วง 7°C  - 20°C  หรือ ในเดือนมิถุนายน ก็จะประมาณ 13°C -26°C 
ข้อดี ของการท่องช่วงนี้คือ จะได้พบดอกไม้เมืองหนาว สวยงาม มากมาย อุณหภูมิกำลังสบาย ดังนั้นค่าตั๋วเข้าชม ก็ยังจัดเต็มอยู่ แต่ข้อเสียคือ ในช่วงนี้ที่กรุงปักกิ่ง มักจะต้องพบกับพายุทราย ก็อาจทำให้การเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว เสียอรรถรสไปบ้าง ใครชอบช่วงนี้ ก็ต้องลองดู

day 020

4. ฤดูร้อน เริ่มจาก เดือนมิถุนายน - เดือนสิงหาคม
อุณหภูมิจะอยู่ในช่วง 18°C - 30°C หรือ ในเดือนสิงหาคม ก็จะประมาณ 22°C-31°C
เวลาร้อน ก็ร้อนถึงใจ ประเภทฝรั่งที่ไปเที่ยวกำแพงเมืองจีน ต้องถอดเสื้อเดินกันเลย ข้อดีก็คือ เราอาจได้เห็นดอกไม้เมืองร้อน เช่น ทุ่งลาเวนเดอร์ อันยาวเหยียดใกลสุดลูกหู ลูกตา ตามมณฑลนอกเมืองของกรุงปักกิ่ง ซึ่งทัวร์ท้องถิ่น จะจัดไปเที่ยวกัน


day 01

2. เตรียมความพร้อมก่อนเดินทาง

เมื่อได้ช่วงเวลาที่ต้องการแล้ว ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว ลำดับต่อไปก็ต้องมาเตรียมความพร้อมกัน ก่อนเดินทางเราต้องเตรียมอะไรบ้าง

1. ทำวีซ่า ประเทศจีน เป็นอีกประเทศ ที่ต้องทำวีซาก่อนเข้าประเทศ สามารถทำได้ที่สถานฑูตจีน ที่กรุงเทพ หรือ ต่างจังหวัดที่สถานกงศุลจีนเชียงใหม่ หรือ สงขลา ซึ่งเราสามารถขอดูข้อมูล รายละเอียดการขอวีซ่าได้ที่เวบไซท์สถานฑูตจีน
http://www.chinaembassy.or.th/th/
ดาวน์โหลดแบบฟอร์มได้ที่เวบไซท์สถานฑูตจีน สำหรับการท่องเที่ยวเลือกชุดที่ 1
http://www.chinaembassy.or.th/th/lsfw/bgxz/
print มากรอกแบบฟอร์มให้เรียบร้อย จะเป็นการดีและไม่เสียเวลา สำคัญสุดคือ
** การยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวจีน จำเป็นต้องมี แบบฟอร์ม 1 ฉบับ  รูปถ่าย 1 ใบ ใบจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินไปกลับ
ที่กรุงเทพฯ คงต้องไปกันแต่เช้ามากมาก เพราะปริมาณคนขอเยอะจริงๆ ใครอยู่ต่างจังหวัด เช่นเรา ทำที่ จ.สงขลา สะดวกรวดเร็ว ยิ่งถ้ากรอกแบบฟอร์มมาแล้ว เสร็จได้ภายใน 15 นาที ค่าทำวีซ่า แบบธรรมดา 4 วันทำการ คนละ 1,000 บาท ถ้าจ้างเอเจนซี่ ก็คนละ 2,000 บาท ไม่ต้องไปทำเอง แล้วแต่สะดวก เราทำก่อนล่วงหน้า 1 เดือน ก่อนเดินทาง ใครจะไปช่วงใหน ต้องระวังสถานฑูตจีน มีวันหยุดยาว 2 อาทิตย์ ช่วงวันที่ 1 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันชาติ ต้องคำนวณวันเวลาดีๆ อย่าให้พลาด

2. ฉีดวัคซีน 2009 สำหรับเพื่อนๆ ที่ไปช่วงฤดูหนาว ควรไปฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัด 2009 เพื่อความไม่ประมาท โรงพยาบาลเอกชนมีบริการทุกที่ คนละประมาณ 700 บาท ควรไปฉีดก่อนเดินทาง อย่างน้อย 2 อาทิตย์ เพื่อจะได้มีภูมิคุ้มกันเต็มที่

3. แลกเงินหยวน
อัตราแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 4.8 บาท ต่อ 1 หยวน ให้เราคิดง่ายๆ ก็ให้ราคาเท่ากับ 5 บาท ต่อ 1 หยวน สะดวกดี แลกเงินให้เรียบร้อย ก่อนเดินทาง แต่ถ้าใครต้องการความสะดวก ก็แลกที่ สนามบินสุวรรณภูมิก็ได้ ถ้าแลกที่ระดับ 10,000 บาท ขึ้นไป ทุก 10,000 บาท ผลต่างจะอยู่ที่ 500 บาท เปรียบเทียบ หากแลกจากข้างนอก ก็แล้วแต่สะดวก

day 02

3. เรียนรู้ภาษาจีนพื้นฐาน เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง
ถ้าจำไม่ได้ ก็จดไว้ในสมุดบันทึก เมื่อต้องการใช้ ก็เปิดดูได้ทันที
การเดินทาง
1. รถบัสประจำทาง - กงเจียว
2. รถไฟฟ้าใต้ดิน - ตี้เถี่ย
3. รถเช่า - ชูจูเชอ
4. ไคว่เชอ - รถเร็ว
5. ตั๋ว - เพี่ยว
6. บัตรแทนเงินสำหรับขึ้นรถเมล์,รถไฟใต้ดิน , รถไฟ - อี้ข่าทง
7. กระเป๋าเดินทาง - สิงหลี่

ร้านอาหาร
1. รายการอาหาร / เมนู - จงชานไช่ตัน
2. ข้าวสวย - หมีฟั่น
3. น้ำ - สุ่ย
4. คิดเงิน - จ้างตัน
5. เห็ด - หมอกู
6. ผัก -ไช่
7. โจ๊ก - โจว

ทั่วไป
1. ขอถามหน่อย - ฉิ่งเวิ่น
2. อยู่ที่ใหน - ไจ้หน่าลี่
3. ขอบคุณ - เซียะ เซียะ หนี่
4. เท่าไหร่ - ตั้วส่าวเฉียน
5. ไป - ชี่
6. ช่วยเขียนออกมาที - ฉิงเสี่ยเซี่ยหลาย
7. ห้องน้ำ - สีโส่วเจียน

ตัวอย่างการใช้ เช่น
ชี่ ปาต๋าหลิ่ง ตั๊วส่าวเฉียน แปล ไปด่านปาต๋าหลิ่งเท่าไหร่
ฉิ่งเวิ่น อี้เหอหยวน ไจ้หน่าลี่ แปล ขอถามหน่อย พระราชวังฤดูร้อน อยู่ที่ไหน

** สำหรับเรา จำคำที่สำคัญ ใช้ร่วมกับเครื่องคิดเลข , สมุดโน๊ต และ ภาษามือ
เช่น เราต้องการซื้อหมวก 1 ใบ เราชี้ที่หมวก แล้วถามว่า ตั๊วส่าวเฉียน แปล หมวกราคาเท่าไหร่ พอเค้าบอกราคา เราก็ยื่นเครื่องคิดเลข ให้จิ้มราคา แล้ว เราก็ใช้เครื่องคิดเลข ต่อรองราคา
หรือเราต้องการเช่ารถไปกำแพงเมืองจีน เราก็บอกว่า ชี่ปาต๋าหลิ่ง ตั๊วสาวเฉียน แปล ไปกำแพงเมืองจีนเท่าไหร่ พอเค้าบอกราคา เราก็ใช้เครื่องคิดเลข ต่อรองราคาเหมือนเดิม

day 010

4. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบขนส่ง
กรุงปักกิ่ง มีระบบขนส่งที่สะดวก สบาย และราคาแสนถูก ถ้าเราสามารถเรียนรู้และเข้าใจ เกี่ยวกับระบบขนส่ง จะทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ถึงมากที่สุด โดยไม่ว่าจะเป็น รถไฟใต้ดิน หรือ รถเมล์ ค่าโดยสาร ตลอดเส้นทาง ราคาแค่ 2 หยวนเอง และถ้าใช้บัตรเติมเงิน ก็จะลดครึ่งราคาอีกต่างหาก

1. รถไฟใต้ดิน หรือที่คนจีน เรียก ตี้เถี่ย
ขณะที่เราไป มีอยู่ทั้งหมด 8 สาย แบ่งตามสี
1. สีแดง สาย 1 / Subway Line 1 เส้นทางไป จตุรัสเทียนอันเหมิน , พระราชวังต้องห้าม ฯลฯ
2. สีม่วง สาย 2 / Subway Line 2 เส้นทางไป ถนนคนเดินเฉียนเหมิน , ไปขึ้นรถเมล์ไปกำแพงเมืองจีน ฯลฯ
3. สีฟ้า สาย 4 / Subway Line 4 เส้นทางไป พระราชวังฤดูร้อน , สวนเซียงซาน ฯลฯ
4. สีเขียวอ่อน สาย 5 / Subway Line 5 เส้นทางเพื่อไปสู่สนามกีฬาโอลิมปิค ฯลฯ
5. สีเขียวเข้ม สาย 8 / Subway Line 8 เส้นทางสนามกีฬาโอลิมปิค ฯลฯ
6. สีชมพูอมม่วง สาย 10 / Subway Line 10
7. สีส้ม สาย 13 / Subway Line 13
8. สีน้ำตาล สายเส้นทางจากสนามบิน / Airport Line เส้นทางไปสนามบิน

เมื่อไปถึงแต่ละสถานีรถไฟฟ้าฯ จะมีแผนที่เส้นทางการเดินรถของทุกสายให้เราได้ดู ได้ตรวจสอบว่า สถานที่ท่องเที่ยว ที่เราต้องการจะไปเที่ยว อยู่ในเส้นทางการเดินรถสายใด
วิธีการใช้
1. ต้องรู้จักชื่อสถานที่ ที่เราต้องการไป ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาจีน ซึ่งโชคดีที่มีการเขียนกำกับเป็นภาษาอังกฤษไว้ด้วย ดังนั้น เราเพียงแต่ดูว่า สถานที่ ที่เราต้องการจะไป อยู่ในเส้นทางของรถไฟฟ้าใต้ดิน สายใด ขึ้นให้ถูกสาย แล้วก็ลงให้ถูกป้ายเท่านั้นเอง โดยรถไฟฟ้าจะมีสัญญาณไฟกระพริบ อยู่ใกล้ประตูทางออก ว่าขณะนี้เราอยู่สถานีใด พร้อมเสียงตามสายบอกทั้งภาษาจีน และ ภาษาอังกฤษ เช่น เราต้องการไปพระราชวังฤดูร้อน / Yiheyuan ( อี้เหอหยวน ) จำภาษาอังกฤษ หรือ คำอ่านไว้ให้ดี เมื่อป้ายหน้าจะถึง ก็จะมีไฟกระพริบที่ สถานี Yiheyuan พร้อมเสียงตามสาย The next station is Yiheyuan ก็เตรียมตัวลงเลย สบายๆ ชิลด์ๆ

2. สิ่งที่ควรรู้อีกอย่างคือ ต้องรู้ว่าควรจะขึ้นรถไฟใต้ดิน ฝั่งใหนดี ถึงจะพาเราไปยังเป้าหมายได้ นั่นคือ ในแต่ละสถานีรถไฟฟ้าฯ จะมีการวิ่งรถไฟฟ้าฯ 2 ขบวน ในสายเดียวกัน อยู่ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา เช่น เราพักย่านเฉียนเหมิน ขึ้นรถไฟฟ้าฯ สาย 2 สีม่วง จาก เฉียนเหมิน/Qianmen ต้องการจะไปลงที่ หย่งเหอกง/Yonghegong เที่ยววัดลามะ ให้ดูที่ตรงเสาใกล้ที่รอขึ้นรถไฟฟ้าฯ จะมีป้ายลูกศรชี้ทั้งสองฝั่งว่า จากตรงนี้ คือ เฉียนเหมิน สถานีต่อไปจะเป็นอะไร ไปจนสุดเส้นทาง ฝั่งที่ถูกก็จะต้องมีชื่อ สถานี หย่งเหอกง เป็นสีเข้ม ฝ่ายที่ไม่ใช่ชื่อจะเป็นสีจาง เราก็เลือกขึ้นฝั่งที่มีชื่อสถานที่เป็นสีเข้ม  นั่นเอง

day 04

3. เนื่องจาก รถไฟใต้ดิน เป็นที่นิยมใช้บริการมากทั้งคนจีน และต่างชาติ แต่ละสถานีจะมีผู้ใช้บริการอย่างหนาแน่น เพื่อความสะดวก ควรซื้อบัตรเติมเงิน เพื่อใช้สำหรับการเดินทาง เสียค่าบัตร 20หยวน เติมเงินตามต้องการ ของเราและคุณสามีเติม คนละ 20 หยวน ใช้ได้ตลอดการเดินทาง ไม่ต้องไปเสียเวลารอซื้อตั๋วในแต่ละสถานี ซึ่งยาวเหยียดมาก ใช้ไม่หมดก็คืนเงินที่เติมได้ ไม่พอก็เติมเงินเพิ่ม

day 06

2. รถเมล์ หรือ ที่คนจีนเรียกว่า กงเจียว
รถเมล์จะไม่มีแผนที่ให้ นอกจากเราจะหาข้อมูลไว้ก่อน ว่าไปเที่ยวไหน ต้องนั่งรถสายอะไร แถมตามป้ายรถเมล์ มีเจ้าหน้าที่ คอยอำนวยความสะดวก โบกให้รถเมล์มาจอด ตามช่องเส้นของสายรถเมล์ เป็นระเบียบมากการรอรถเมล์ที่กรุงปักกิ่ง นอกจากนี้ เรายังสามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้ด้วยว่า ควรไปสายใด แค่จำชื่อสถานที่ ที่ต้องการจะไปให้ได้เท่านั้นเอง บนรถเมล์ ก็มีไฟกระพริบ และเสียงตามสายว่า ขณะนี้ อยู่สถานีไหน ต่อไปเป็นสถานีอะไร สะดวกสบายมาก สำคัญตอนขึ้นรถแล้ว อย่าลืมใช้บัตรรูด เป็นค่าโดยสาร ไม่งั้นโดนด่า จากเสียงตามสายแน่นอน

day 015

5. การเดินทางจากสนามบินสู่ที่พัก
จากสนามบินสุวรรณภูมิ ถึงสนามบินนานาชาติแห่งกรุงปักกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง และเวลาที่ประเทศจีน เร็วกว่า 1 ชั่วโมง ทุกสายการบินที่มาจากประเทศไทย จะจอดที่ สถานีที่ 3 หรือ Terminal 3 เนื่องจากสนามบินปักกิ่ง เป็นสนามบินที่ใหญ่โต การเดินทางซับซ้อน ถ้าไม่เตรียมการให้ดี อาจหลงทาง เสียเวลาได้

เริ่มต้นจากเมื่ออยู่บนเครื่อง เมื่อกัปตันประกาศว่า กำลังแลนดิ่งรันเวย์ สนามบินปักกิ่ง แอร์โฮสเตส ก็จะนำ ใบ arrival สีเหลือง มาแจก ถ้าเพิ่งจะได้รับ ก็ทำการกรอกข้อมูลให้เรียบร้อย จะได้ไม่เสียเวลา ตอนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ของเราได้รับตั้งแต่ ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว

เมื่อลงจากเครื่องส่วนใหญ่แล้ว วิธีการเดินตามๆ กันไปก็ได้ผล ด่านแรก ต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองก่อน ต้องเป็นเคาน์เตอร์แถวยาวๆมากๆ ถึงจะใช่ เลือกที่ช่องชาวต่างชาติ เป็นอันโอเค แต่เนื่องจากใช้เวลาเดินทางอยู่บนเครื่อง 4-5 ชั่วโมง เราอาจแวะเข้าห้องน้ำ แล้วตามใครไม่ทัน อาจเข้าช่องต่อเครื่องไปต่างประเทศ ที่ถึงก่อนเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองเหมือนเรา เห็นคนต่อแถวกัน ก็ไปต่อกะเค้าด้วยเฟอะฟะซะงั้น พอเจ้าหน้าที่ขอบอร์เดอร์พาส ถึงกระจ่าง หลงทางเสียเวลาจริงๆ บอกเพื่อนๆไว้ อย่าได้เป็นเหมือนเรา

หลุดจากด่านตรวจคนเข้าเมือง ก็ต้องไปรับกระเป๋าเดินทาง ที่สนามบินแห่งนี้ หนทางอีกยาวใกลกว่าจะได้กระเป๋า วิธีการไม่ให้หลง ก็คือหาป้าย Baggage Claim เดินตามป้ายไปตลอดทาง สรุปก็คือต้องลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่าง แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปสุดสาย หรือฟังเสียงตามสายของรถไฟ ประกาศ เมื่อลงจากรถไฟฟ้า ก็จะพบสายพานลำเลียงกระเป๋า ซึ่งเราควรตรววจสอบจากป้ายไฟที่อยู่ด้านหน้าก่อนว่า สายการบินใด อยู่สายพานใหน เมื่อได้รับกระเป๋า ก็จะผ่านด่านตรวจของศุลกากร ปกติเราก็จะเดินผ่านช่อง Nothing to declair หลุดจากด่านนี้ ก็จะพบทางออก

day 016

การเดินทางเพื่อจะไปที่พัก ก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานที่ของโรงแรม ว่าอยู่ส่วนใหนของเมือง แล้วเลือกวิธีการเดินทาง โดยปกติ ถ้าเราจองห้องพักจากโรงแรมใด โรงแรมนั้นก็จะมีเวบไซท์บอก ว่าเราจะเดินทางมาใด้อย่างไร

จากสนามบินไปโรงแรมทำได้หลายวิธี
1. โดย Shuttle Bus จากสนามบินเข้าไปในเมือง ราคาคนละ 16 หยวน จากนั้นจะต่อ แท็กซี่หรือ ขึ้นรถเมล์ ก็แล้วแต่สะดวก
2. โดย Airport Express ซึ่งก็คือรถไฟฟ้าใต้ดินจากสนามบิน ไปลงที่สถานีสุดสาย คนละ 25 หยวน จากนั้นต่อรถไฟฟ้าสายที่ต้องการ ของเราอยู่ย่านเฉียนเหมิน ก็ต่อรถไฟฟ้าสีม่วง สาย 2 ไปลงสถานีเฉียนเหมิน / Qianmen แต่วิธีการนี้ กระเป๋าจะต้องรัดกุม เพราะช่วงเปลี่ยนสถานี ต้องเดินเป็นกิโลเมตร แล้วต้องขึ้น-ลงบันได แต่ละช่วง 20-30 ขั้น
3. โดยแท็กซี่ จากสนามบินเข้าไปในตัวเมือง ค่าโดยสารประมาณ 100 หยวน บวกค่าทางด่วน 10 หยวน และค่าทิปอีก 4-5 หยวน โดยให้เบอร์โทรศัพท์แท็กซี่ เพื่อสอบถามเส้นทาง กับทางโรงแรมโดยตรง ของเราทางโรงแรมมีแผนที่ให้เรียบร้อย สบายไป

day 012

6. การเลือกที่พัก
หลักการเดียวที่ใช้ได้ผลคือ ให้อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน จะไปเที่ยวที่ใหน ไม่ลำบากแน่นอน สำหรับของเรา เราพักที่ โรงแรมลีโอ โฮสเทล ย่านเฉียนเหมิน สาเหตุที่เราเลือกโรงแรมแห่งนี้ คือ
1. Staff โดยเฉพาะ ตรง Reception พูดภาษาอังกฤษ ได้แน่นอน
2. สามารถเดินไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ เช่น ถนนคนเดินเฉียนเหมิน , จตุรัสเทียนอันเหมิน , พระราชวังต้องห้าม ความจริงจะว่าใกล้ก็ไม่เชิง เอาเข้าจริงเดินกันเหนื่อยเป็นกิโลเมตร แต่เราก็สามารถเดินได้ ถือว่าเดินเพลินๆ ชมบ้านเมืองของเค้า
3. มีของกิน ของใช้ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ร้านผลไม้ ฯลฯ ตลอดทั้งถนน ทั้งย่านเฉียนเหมินก็แล้วกัน
4. มีทั้ง KFC , Macdonal เป็นทางเลือก ถ้าหากไม่ชอบอาหารจีน แต่ขอบอกว่า อาหารจีนที่ปักกิ่ง ค่อนข้างจะอร่อย เราใช้บริการแม็คโดแนล แค่วันแรกที่มาถึง เท่านั้นเอง

day 08

5. ที่พักที่นี่ เป็นย่านถนนคนเดินจริงๆ มีแต่นักท่องเที่ยว กับตำรวจ เดินสวนสนามกันเต็มไปหมด รู้สึกปลอดภัยมาก
6. อยู่ไม่ไกลจาก สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สถานีเฉียนเหมิน
7. ที่พักนี้ มีต่างชาติเข้าพัก ร้อยละ 90 บรรยากาศดี มี wifi
8. จองผ่านทาง agoda , hostel.com ฯลฯ ได้ แต่ที่นี่ไม่รับเครดิตการ์ด
9. ราคาอยู่ที่ห้องละ 250 หยวนต่อคืน เป็นราคาระดับกลางๆ ภายในมี เครื่องทำความร้อน มีน้ำอุ่น มีทีวี มีผ้าเช็ดตัวให้ แค่นั้นนะ ไม่มีน้ำดื่มให้ แต่มีคูลเลอร์ น้ำร้อน , น้ำเย็น บริการอยู่ด้านนอก มีเซ็นเตอร์น่ารักๆ และมีร้านอาหาร เป็นโรงแรมแบบโรงเตี๊ยมเล็กๆ 2 ชั้น ห้องเล็กๆ น่ารักดี ก็โอเคนะ ไม่หรู แต่ทำเลดีมากมาย
10. มีรถรับ-ส่ง ไปสนามบิน
11. และที่สำคัญที่สุด มีแผนที่โรงแรม ที่เราดูแล้ว สามารถเดินทางไปด้วยตัวเองได้ ใครสนใจเข้าไปดูข้อมูลของโรงแรมได้ที่เวบไซท์ของโรงแรม http://www.leohostel.com/

ถ้าไม่ชอบโรงแรมนี้ อยากอยู่หรูเริ่ด ก็ลองหาที่พัก ที่อยู่ใกล้กับรถไฟใต้ดิน เป็นพอ

day 021

7. การท่องเที่ยว

เรื่องการท่องเที่ยว ก็ควรตั้งโปรแกรมไว้ ว่าแต่ละวันไปเที่ยวไหนบ้าง ลอกจากโปรแกรมทัวร์ แล้วมาประยุกใช้ ให้เหมาะกับเรา สำหรับเรา ตั้งใจไว้ว่า จะไปเที่ยวให้ได้ วันละ 2 ที่ แต่พอเอาเข้าจริงๆ เรากลับสนุกสนาน ดื่มด่ำกับสถานที่นั้น อยู่จนมืดค่ำได้ทุกที่ ทุกวัน โปรแกรมส่วนใหญ่ จึงเที่ยวได้วันละ 1 สถานที่ เท่านั้น แต่ก็มีความสุข

สถานที่ท่องเที่ยว ส่วนใหญ่ จะเปิดบริการ ตั้งแต่ 8.30 - 18.00 น. แต่ในฤดูหนาว จะปิดเร็วเป็น 17.00 น. เนื่องจากท้องฟ้ามืดเร็ว  สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด คือ
1. จตุรัสเทียนอันเหมิน และ พระราชวังกู้กง / Tiananmen , Gugong
2. กำแพงเมืองจีน / Changcheng / Badaling
3. พระราชวังฤดูร้อน / Yiheyuan
4. หอฟ้าเทียนถาน / Tiantan
5. ถนนคนเดินเฉียนเหมิน / Qianmen Da Jie
นอกนั้น ก็ตามอัธยาศัย เช่น ไปชมใบไม้ผลัดใบที่สวนเซียงซาน , ไปชมสนามกีฬารังนก , โรงละครรูปไข่ , พิพิธภัณฑ์แห่งชาติ, สวนสัตว์ปักกิ่ง ฯลฯ


day 018

เราได้นำบางช่วงบางตอน ที่ได้ไปเที่ยวมา เป็นตัวอย่าง ลองเข้าไปชมดูได้เลย และเป็นเพราะเรา ไปเที่ยวด้วยตนเอง ทำให้เราได้พบกับหิมะ แบบไม่รู้ตัว ได้กินมื้อเช้าที่แสนอร่อย ได้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน , รถไฟความเร็วสูง , รถเมล์ , รถแท็กซี่ , รถสามล้อ , นั่งเรือ เรียกได้ว่า ครบทุกอรรถรส กันเลยทีเดียว

การได้สัมผัสกับหิมะอย่างชุ่มฉ่ำ
เที่ยวกำแพงเมืองจีนเมื่อยามหิมะปกคลุม
เยือนหอบูชาฟ้าเทียนถาน
เยือนพระราชวังฤดูร้อนของพระนางซูสีไทเฮา
พระราชวังต้องห้าม พระราชวังที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
เที่ยวสนามกีฬารังนก / เยือนถนนคนเดินเฉียนเหมิน

qianmen 019 new

8. อาหารการกิน
เรื่องของกิน ก็ต้องพยามเข้าร้านที่มีเมนู บอกราคาให้ชัดเจน หรือร้านที่มีคนจีนท้องถิ่นเข้ามากๆ อันนี้จะชัดเจนในเรื่องราคา หรือถ้าอยากจะสั่งอาหารเอง ถ้าไม่ต้องการพบกับราคาอาหารที่แพงลิบลิ่ว ก็ต้องหลีกเลี่ยง การสั่งอาหาร ที่มีปลา มีกุ้ง เป็นส่วนประกอบในอาหาร มิเช่นนั้นราคาจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 2-3 เท่าตัว ที่สำคัญ ใครที่ไม่ถนัดเรื่อง การใช้ตะเกียบ ให้พก ช้อน-ส้อม ส่วนตัวไปด้วยนะจ๊ะ เพื่อความสะดวกในการกิน

day 011

9. การซื้อของ
เรื่องการซื้อของ ถ้าเป็นในห้าง หรือซุปเปอร์ฯ ราคาที่บอกจะเป็นราคาที่ลดแล้ว อย่างไรก็แล้วแต่ ก็สามารถต่อรองกันได้ โดยใช้เทคนิค จิ้มเครื่องคิดเลข ต่อรองกันไป

ควรซื้ออะไรเป็นของฝาก ความจริง ถ้าเดินเล่น ตามถนนคนเดิน ก็จะเกิดความคิด เมื่อเห็นของที่วางขายอยู่ ซึ่งถ้าโดดเด่นจริง ก็คงจะหนีไม่พ้น เรื่องของหยก มีทุกร้าน ทุกห้างสรรพสินค้า ทุกสถานที่ท่องเที่ยว ไม่ว่าร้านเล็ก ร้านใหญ่มีหมด โดยเฉพาะกำไลหยก จี้หยก ฯลฯ อันนี้ก็น่าซื้อ ถ้าซื้อไม่ถูก เลือกไม่เป็น ก็ให้ซื้อ ในสถานที่ไว้ใจได้ ราคาไม่ต่างกันเลย จริงๆ นอกจากนี้ เรายังซื้อ รูปหน้างิ้ว ซึ่งมีสีสัน สะดุดตา ให้เลือกหลากสี เป็นของที่ระลึก ให้นึกถึงวัฒนธรรมจีน เอาไว้ประดับบ้านด้วยก็สวยดี , ถ้าเป็นแนวของกิน ที่น่าซื้อก็คือ ผลไม้แนวถังหูลู่ ถังหูลู่ เป็นผลไม้จีนราดน้ำเชื่อมแล้วเสียบไม้ เป็นผลไม้ที่คนจีนนิยมกินมาตั้งแต่ สมัยโบราณ ปัจจุบัน ก็มีวางขายให้เห็น อยู่ทั่วไป แต่ปัจจุบัน จะมีการนำผลไม้นั้น มาบรรจุหีบห่อ เป็นแบบทอฟฟี่ แต่มีขนาดใหญ่ 1 ห่อหรือ 1 เม็ด หรือ 1 ผล ราคาอยู่ที่ 1-2 หยวน พอมาบรรจุเป็นแบบนี้ เราสามารถซื้อเก็บไว้กิน ซื้อมาเป็นของฝากได้ ยืนยันว่าอร่อยมากจ๊ะ

ในการท่องเที่ยว ถ้าเราเตรียมการ มาอย่างดี เราก็จะสามารถลุยไปได้ทุกที่แบบไร้กังวล ขอให้เพื่อนๆ ที่ได้อ่านบทความนี้ สามารถนำมา สร้างสรรค์การท่องเที่ยวของตัวเอง ได้อย่างมี ความสุข สนุกสนาน นะจ๊ะ

ไม่ระบุชื่อ –   – (4/9/56)  

ขอบคุณครับที่เก็บภาพมาให้ดู

วิภาพร –   – (10/10/56)  

ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาทักทายกัน

ไม่ระบุชื่อ –   – (15/10/56)  

ขอบคุณมากที่นำมาให้ชมกัน ไปมาแล้วเหมือนกันแต่ต่างเวลากัน ของคุณวิภาพรสวยมากค่ะ แล้วก็อิจฉาจังคุณเที่ยวได้แบบน่ารักมาก ตามชมทุกที่ที่คุณรีวิว ขอบคุณมากค่ะ

วิภาพร –   – (16/10/56)  

ดีใจจังเลยค่ะ ที่มีเพื่อนร่วมขบวนการเดียวกัน มนต์เสน่ห์ของการเดินทาง ด้วยตัวเอง คือการที่เราได้เรียนรู้ ได้ลุย ได้อ้อยอิ่ง ในที่ที่เราชอบ เลือกไปในที่ที่อยากไป... ขอบคุณนะคะที่แวะมาทักทายกัน

Unknown  – (18/10/56)  

เคยไปกับทัวร์ครั้งนึง แต่อยากไปเที่ยวเองแบบนี้บ้าง ขอบคุณที่แชร์ข้อมูลค่ะ ^^

พี่นาท TG –   – (23/10/56)  

คราวหน้าจะลองไปเองแล้วล่ะค่ะโดยใช้เวบของคุณเป็นไกด์เพราะละเอียดดีมากจริงๆ เพราะทุกครั้งซื้อทัวร์ไม่ค่อยได้บรรยากาศเท่าไหร่ ขอบคุณที่ทำเวบนี้ออกมาค่ะ ละเอียดดีมากๆค่ะ

วิภาพร –   – (26/10/56)  

ขอบคุณนะคะ สำหรับเพื่อนๆ ที่แวะมาทักทายกัน
ลองเที่ยวด้วยตัวเองสักครั้ง แล้วจะติดใจค่ะ

ไม่ระบุชื่อ –   – (5/11/56)  

ขอบน้ำใจจริงเทียว เพื่อนไปต้นพ.ย.

ไม่ระบุชื่อ –   – (26/11/56)  

กำลังจะไปกับ trip วันที่ 27 พย 56 นี้ค่ะ มาเปิดดูช้าไปนิดดด ก็ยังโชดดี ได้มาอ่านก่อน จะ print เก็บไว้อ่านที่ปักกิ่งด้วยค่ะ

วิภาพร –   – (27/11/56)  

ปักกิ่งกำลังหนาวเลยช่วงนี้ ขอให้ได้เจอหิมะด้วยนะคะ
เที่ยวให้สนุกนะคะ

ขอบคุณคะ ที่แวะมาทักทายกัน

Unknown  – (19/3/57)  

ตอนนี้ ถ้าแค่จะไปเทึ่ยวยังต้ิงขอวีซ่าอยู่ไหมค่ะ พอดีจะไปหาแฟน

Unknown  – (19/3/57)  

ขอรบกวนถามอีกสักหน่อยค่ะ ว่าตอนช่วงปลายปีส่วนใหญ่แล้วค่าตั๋วเครื่องบินสายการบินไหนราคาถูกมั้งค่ะ

ไม่ระบุชื่อ –   – (19/3/57)  

ขอบคุณมากครับ ได้แนวทางมากเลย กำลังจะไปพอดีครับ(ไป19มิย.นี้ไปคนเดียวภาษาจีนไม่ได้เลยครับ แต่จะลองดู)

Unknown  – (26/3/57)  

ขอขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำดี ๆ ฟังแล้วอยากไปจัง อยากทราบว่าหมดค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไรครับ

วิภาพร –   – (29/3/57)  

ค่าใช้จ่าย ไม่มากเลยค่ะ เพราะนั่ง รถไฟฟ้า ตลอด ในทุกเส้นทาง ซึ่งก็แค่ ครั้งละ 2 หยวน ตลอดสาย ถูกที่สุด สะดวกที่สุดค่ะ มีเงืนเหลือ ซื้อของฝาก กลับบ้านมากมาย....

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกๆท่านนะคะ ที่แวะมาทักทายกัน


welka  – (2/4/57)  

ชอบน่าสนุกจังค่ะ

welka  – (2/4/57)  

เรื่องราวของคุณมีประโยชน์มากค่ะ ลูกอายุ 11ขวบ จะไป summer กับโรงเรียนที่ มหาวิทยาลัยแถวปักกิ่ง ปลายเมษา-พ.ค. เสาร์ อาทิตย์ เขาพาเด็กๆ เที่ยวด่วย ทุกที่ที่คุณไปค่ะจุดใหญ่ แต่ไม่เห็นคุณพูดถึงตลาดหวังฝูจิ่งเลยค่ะ ลูกชอบซื้อของฝากค่ะ และในแต่ละจุดทั่ไปจะตัองระมัดระวังความปลอดภัยสำหรับเด็กๆเพียงใดค่ะ ห่วงค่ะขอบคุณค่ะ

Arirrun  – (19/4/57)  

ว้าวววว มีประโยชน์มากๆเลยค่า ขอบคุณมากค่า

วิภาพร –   – (2/5/57)  

ขอบคุณเพื่อนๆทุกท่านนะคะ ที่แวะมาทักทายกัน

Unknown  – (9/5/57)  

ขอบคุณความรู้ดีๆคับ

Unknown  – (9/5/57)  

พี่คับผมถามนิดคับโรงแรมนี้จ่ายบัตร์เครดิตได้หรือเปล่าคับ ถ้าผมไปเดือนนี้วันทีสิบห้าจะได้เห็นหิมะหรือเปล่าคับ ขอบคุณคับ

Unknown  – (10/5/57)  

สวัสดีคับ ขอบคุณข้อมูลดีๆคับ

ไม่ระบุชื่อ –   – (17/5/57)  

ขอบคุณครับ พึ่งไปเที่ยวช่วง 2-8 พค 57 ค่าเงิน 5.44 =1 ¥
แนะนำพาน้ำพริกกระป๋อง หรือ ปลากระป๋องจะช่วยเราได้มากเรื่องการกิน

ไม่ระบุชื่อ –   – (20/5/57)  

เป็นบันทึกการเดินทางที่ มีข้อมูลครบถ้วน มีลำดับขั้นตอนการนำเสนอที่เข้าใจง่าย มีภาพประกอบที่ชัด สวย มุมมองที่เหมาะ อธิบายประกอบที่ดีเยี่ยม เป็นประโยชน์มากๆครับ

วิภาพร –   – (20/5/57)  

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านนะคะ ที่แวะมาทักทายกัน

Unknown  – (13/7/57)  

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ

วิภาพร –   – (18/7/57)  

ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาทักทายกัน

ไม่ระบุชื่อ –   – (13/8/57)  

ข้อมูลมีประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ

ไม่ระบุชื่อ –   – (14/8/57)  

พอดีจองกับทัวร์ ระหว่างวันที่ 20-25 สิงหาคม 2557 ครับ มันจะร้อนมากไหม และควรเตรียมเสื้อผ้า อย่างไร สิ่งของที่จำเป็นต้องพกติดตัวมีอะไรบ้าง ขอคำแนะนำด้วยครับ เที่ยวครั้งแรกครับ

ไม่ระบุชื่อ –   – (9/9/57)  

ช่วงต้นธันวาคม เด็กประมาณ 5 ขวบไปได้ไหมคะ เพราะได้ยินมาว่ามันหนาวมากๆ
คือหนาวแห้งเหมือนโดนหนังสติ๊กอย่างนั้น เลยกลัวลูกรับไม่ไหว ช่วยแนะนำด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

ไม่ระบุชื่อ –   – (25/10/57)  

ขอทราบงบประมาณ พอจะบอกได่ไหมคะ ขอบคุณค่ะ

Unknown  – (19/2/59)  
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
Unknown  – (19/2/59)  

สำหรับคนไทยที่ไปท่องเที่ยวหรืออาศัยอยู่ที่ประเทศจีน แล้วมีปัญหาเข้า facebook youtube หรือเล่น line ไม่ได้เพราะถูกบล็อค แนะนำบริการ GO-ON VPN สะดวกดีครับ ราคาคาถูกมาก บริการดี สมัครง่าย เติมเงินแค่ 50 บาทก็ใช้งานได้แล้วครับ

สนใจทดลองใช้งานฟรี
https://www.goonvpn.com/

Unknown  – (31/8/59)  

ขอบพระคุณค่ะสำหรับข้อมูล ละเอียดมากค่ะพี่ใจดีมาก.

Unknown  – (19/11/59)  

ตอนไปเที่ยวสิงคโปร์ก็อ่านข้อมูลที่บล็อกนี้ค่ะ
หนังสือคือไม่ได้ซื้อเลย..
กะว่าจะไปเที่ยวจีน ก็เลยกดมาดูอธิบายเข้าใจง่ายมากค่ะ
ขอบคุณมากนะคะสำหนับข้อมูลดีๆๆ

Unknown  – (7/6/60)  

จากที่พักจะเดินทางไปเที่ยวกำแพงเมืองจีนเดินทางยังงัยครับ?

แสดงความคิดเห็น

Related Posts with Thumbnails