เที่ยวเขื่อนรัชชประภาจ.สุราษฏร์ธานี


วันแรกของการเดินทาง..แวะเขื่อนรัชชประภาจ.สุราษฏร์ธานี

ความจริงเราคิดคอนเซ็บของการเดินทางครั้งนี้ว่า "ภาระกิจพิชิตอุทยาน" การเดินทางของเราจึงเริ่มต้น ด้วยการมองหาอุทยาน เมื่อไรที่เราอยากพัก อยากค้างคืน ถ้าเลือกได้เราจะเลือกอุทยานแห่งชาติไว้เป็นลำดับแรก เพื่อเป็นเรคคอร์ดให้กับตัวเองว่าครั้งหนึ่งเราได้มาเยือนอุทยานแห่งชาติที่จังหวัดนั้นๆแล้ว..นั่นเอง

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้าของวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ออกแต่เช้าก็เพราะนอนไม่ค่อยจะหลับ ทั้งเราและสามี ด้วยความตื่นเต้น อยากเที่ยวๆ... การเดินทางในวันแรก เครื่องยังไม่ร้อน ขับมาได้ 300 กิโลเมตรกว่าๆ ก็อยากพักซะแล้ว..ก็เลยต้องแวะหาที่พักค้างคืนที่ จ.สุราษฏร์ฯ หลังจากขับรถมาได้ครึ่งวัน ก็มันเหนื่อยเนื่องจากนอนไม่เต็มอิ่ม แวะชาร์จแบตฯที่นี่แล้วกัน แต่เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็บก็ต้องเป็นอุทยาน เรื่องจึงมาลงเอยที่ อุทยานแห่งชาติเขาสก จ.สุราษฏร์ฯ ...จากแผนที่ทางหลวงบอกให้รู้ว่า (เดินทางจากจ.สงขลา) เมื่อถึงแยกใหญ่ตามทางหลวงหมายเลข 41 ที่อ.พุนพิน ให้เลี้ยวซ้ายไปทาง อ.คีรีรัฐนิคม เพื่อไปอ.บ้านตาขุน จากแยกใหญ่มาใช้ระยะทางประมาณ 50 ก.มกว่าๆ ซึ่งอ.นี้เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติเขาสก จากอ.บ้านตาขุน ก็จะมีป้ายบอก ไปเขื่อนรัชชประภาหรือเขื่อนเชี่ยวหลานซึ่งเป็นสถานีย่อยของอุทยานแห่งชาติเขาสก เราตัดสินใจไปหาที่พักที่เขื่อนฯ เพราะอย่างน้อยๆก็ยังไม่ผิดคอนเซ็บ...555 ตลอดเส้นทางที่ป้ายบอกนำทางไปที่พัก สองข้างทางจะเต็มไปด้วยดอกเฟื่องฟ้า ดูแล้วสดชื่นดี.. ต้นอะไรก็ไม่รู้ มีให้เห็นตลอดเส้นทางไปที่พักเช่นกัน สวยแปลกตาดี เลยบอกคุณสามีแวะถ่ายรูปสักหน่อย เผื่อใครรู้จัก..เนอะเนื่องจากเขื่อนรัชชประภาอยู่ภายใต้การดูแล ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ดังนั้นถ้าต้องการพักในตัวเขื่อนจริงๆก็ต้องใช้บริการของการไฟฟ้าเค้านะ เราตกลงปลงใจที่บ้านเฟื่องฟ้า เพราะเป็นบ้านที่อยู่ติดกับน้ำ นั่นเองจ้า..
บ้านพักเฟื่องฟ้า ก็เป็นส่วนตัวดีพอสมควร แม้จะเป็นห้องติดๆกัน แต่ทุกห้องก็อยู่ติดกับทะเลสาบย่อยๆ เรียกว่าวิวดีทีเดียว..บรรยากาศก็ใช้ได้ละนะ ได้อารมณ์พักผ่อน เดินไปตามทางได้ยินแต่เสียงนกร้องเป็นระยะๆ วันที่เรามายังไม่เห็นใครเลยนะเนี่ย...บรรยากาศในห้องพักเฟื่องฟ้า ห้องละ 1,200 บาท พร้อมเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันห้องพักมีระเบียง ชมวิว ชมน้ำ ชมฟ้า คืนนี้ท่าทางจะนอนหลับสบายเนอะ คืนนี้นอนให้เต็มอิ่ม จะได้มีแรงลุยต่อไป..เอาเสื้อผ้าเข้าที่พัก ก็ออกมาเดินเล่น วิวแถวห้องพัก ก็ยังใช้บริการของต้นเฟื่องฟ้าอยู่ดี ก็สวยดีนะหลังจากเตร็ดเตร่แถวที่พัก ให้สามีนอนหลับเอาแรง ตอนสามสี่โมงเย็น เราก็ชวนสามีขับรถไปเที่ยวที่ตัวเขื่อนกัน เส้นทางเข้าเขื่อนชอบมาก...จอดรถเรียบร้อย ก็มุ่งตรงไปที่ไฮไลท์เลย ตรงป้ายชื่อเขื่อนอันสุดฮอต เส้นทางก่อนจะถึงเราชอบมาก ต้นไม้โค้งประสานกันสองข้างทาง เหมือนโค้งคำนับต้อนรับผู้คน...ถึงแล้วเขื่อนรัชชประภา เขื่อนซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระราชทานนามไว้ คำว่า"รัชชประภา" มีความหมายว่า แสงแห่งราชอาณาจักร เขื่อนนี้เปรียบเสมือนแสงแห่งราชอาณาจักรไทยนั่นเอง...เขื่อนรัชชประภา หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า เขื่อนเชี่ยวหลาน ก็เนื่องมาจากตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านเชี่ยวหลาน ตอนแรกเรานึกว่าเป็นชื่อเมืองในประเทศจีนซะอีก...เขื่อนเชี่ยวหลาน เป็นอีกเขื่อนหนึ่ง ที่จัดแต่งภูมิทัศน์ได้อย่างสวยงาม ถ่ายมุมไหนๆก็สวยไปหมด เราแอบเห็นคู่หนุ่มสาวที่จะเข้าประตูวิวาห์ มาถ่ายรูปในชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาวกันด้วยละ ไม่ต้องสงสัยเพราะที่นี่วิวสวยจริง


ต้นไม้ของสมเด็จพระเทพฯ ไม้ยืนต้นใหญ่มีป้ายบอกว่าสมเด็จพระเทพฯทรงปลูกไว้ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นต้นหางนกยูงนะ..สวยเด่นเป็นสง่า

ต้องยอมรับว่าทิวทัศน์บริเวณเขื่อนฯ ถูกใจมาก ขนาดสามีเราขอโพสท์ท่าถ่ายรูปเดี่ยวซะหลายรูป...555

ท่าเรือท่องเที่ยว สำหรับชมทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้ ราคาอยู่ที่ลำละ 1,500 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ว่ากันว่า หากได้ล่องเรือชมจะเหมือนกับการได้ไปเที่ยว เมืองกุ้ยหลินแห่งเมืองจีน กันเลยทีเดียว

เราและสามีคิดไปคิดมา ไม่ล่องดีกว่า หนทางเรายังไปอีกไกล ไม่อยากให้ร่างกายสมบุกสมบันเกินไป ไว้ไปคราวหน้าแล้วกันเนอะ...

ท่าเรือท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากจุดชมวิว แต่ก็ต้องนั่งรถอยู่ดี ถ้าจะเดินมาก็คงเดินไม่ไหว

ตกเย็นก็มาใช้บริการที่ครัวกุ้ยหลิน ครัวแห่งเดียวในตัวเขื่อน เปิดบริการถึงดึกดื่น อาหารและวิวก็โอเคนะ แต่เราปิดท้ายไม่สวย เมื่อคิดสตังค์ ราคาไม่ตรงกับที่เมนูบอกไว้ เราเรียกมาถาม เด็กที่ร้านก็บอกว่า "ราคาอาหารยึดตามเมนูไม่ได้เลย..." เอ๋าเป็นงั้นไป แล้วพี่จะมีเมนูไว้ทำไมกันละพี่ อย่างงี้ต้องแจ้งหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคแล้วละตัวเอง สักพักเจ้าหน้าที่แคชเชียร์ก็มาบอกว่า เมนูกำลังอยู่ในระหว่างปรับปรุง ..จ๊ะ คราวหน้าถ้ามาแล้วยังเหมือนเดิม...โดนแน่... การเดินทางครั้งต่อๆไปจะค่อยๆทยอยลงนะจ๊ะเพื่อนๆ

วรัญชัย –   – (11/4/55)  

ผมขอขอบคุณน้องผู้เป็นเจ้าของเวปนี้
ให้ความรู้หลากหลายแก่ผมมากมายโดยเฉพาะการท่องเที่ยว
เข้ามาเนื่องจากพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับศิษญ์เก่า มว.
มาเจอเวปนี้ดีมากจึงอ่านข้อความไปเรื่อยๆ
ดีมากครับ ขอบคุณมากครับ

วิภาพร –   – (11/4/55)  

สวัสดีค่ะ คุณวรัญชัย

เข้าใจว่า น่าจะเป็นเลือดเนื้อเขื้อไขมหาวชิราวุธ เหมือนกัน
ขอบคุณคะ สำหรับคำชมคะ มีความสุขทุกครั้ง ที่มีคนชม 555

ดีใจที่ได้รู้จักค่ะ

แสดงความคิดเห็น

Related Posts with Thumbnails