เที่ยวกิ่วแม่ปาน


เที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน @อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
เช้านี้..เราตื่นแต่เช้า ด้วยความตื่นเต้นอีกตามเคย กินมื้อเช้าที่ ดอยชัวร์ญ่า เรียบร้อย เราก็ออกเดินทางกัน จากที่พัก เราต้องขับรถขึ้นดอยอินทนนท์ไปอีกประมาณ 25 กิโลเมตร จึงจะถึง "เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน" อันเป็นเป้าหมายในวันนี้ ที่กิ่วแม่ปานไม่มีที่พัก ที่พักที่ใกล้ที่สุดก็อยู่ที่ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ,ที่โครงการหลวงบนดอยอินทนนท์ทั้งหมด และที่ดอยชัวร์ญ่า...นั่นเอง เราไปถึงเป็นคณะแรก หลังจากไปติดต่อเจ้าหน้าที่ ลงชื่อในสมุดเข้า-ออก เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้รู้ว่า วันนี้มีใครเข้าไปกี่คณะ และกลับออกมาครบถ้วนหรือไม่ อย่างไร ในการเดินทางก็จะมีเจ้าหน้าที่ผู้นำทางเป็นชาวเขา ที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี ในการนำทางหรือการให้ข้อมูลต่างๆ โดยแต่ละคณะๆละไม่เกิน 15 คน จะต้องจ่ายให้เจ้าหน้าที่ผู้นำทางหรือไกด์ กลุ่มละ 200 บาท เป็นการกระจายรายได้ให้กับชาวเขา...เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่กิ่วแม่ปานแห่งนี้ ใช้ระยะทางทั้งหมด 3 กิโลเมตร มิใช่น้อยเลย ใครจะมา ก็ต้องฟิต และมีการเตรียมตัวกันมาบ้างก็จะดีไม่น้อย เส้นทางก็จะมีขึ้นเนิน ขึ้นเขา ทางราบ ทางชัน มีครบ อย่างแรกก็เรื่องแต่งกาย บนนี้อากาศจะหนาว สวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสม และควรสวมรองเท้าผ้าใบถึงจะดีและปลอดภัยจ๊ะ..
เส้นทางในระยะแรก เป็นป่าดิบเขาโบราณ สังเกตุดูเหล่าต้นไม้ สะพานจะมี มอสเกาะอยู่เขียวเชียว อายุอานานของต้นไม้ที่ป่านี้ ก็ปาเป็น ร้อยๆ ปี ซะส่วนใหญ่ ถ้าอยากเห็นความสวยงามอลังการของป่าดิบโบราณ ประมาณป่าหิมพานต์กันเลยทีเดียว ก็ต้องมาช่วงปลายฝนต้นหนาว เจ้าหน้าที่บอกสวยมากๆเราว่าเส้นทางช่วงนี้ก็สนุกดีนะ มีขึ้นมีลง ปีนบันได ลงบันได ให้อรรถรสสำหรับผู้นิยมชมชอบป่ามากต้นไม้ที่นี่ใส่เสื้อทุกต้นเลย... เป็นมอสมาเกาะและพยายามไต่ขึ้นไปหาแสงแดด..เดินไป เจ้าหน้าที่นำทางก็จะคอยชี้นกชมไม้ ให้ความรู้ไปเรื่อยๆ เหมือนเดินป่าแล้วมีคนบรรยายให้ฟัง เราก็ฟังอย่างเดียว เพราะเหนื่อย อ้าปากไม่ออก..นั่นเอง...555มาได้ไม่ไกลก็เจอ"น้ำตกธารเสด็จ" สดชื่นดี มีมุมให้นั่งชม เจ้าหน้าที่นำทางบอกว่า น้ำที่นี่สามารถดื่มได้เลย เพราะเป็นต้นน้ำ น้ำใสและสะอาด เย็นชื่นใจมาช่วงกุมภาพันธ์ ก็ยังคงมีความชุ่มชื่นให้เห็น มีพันธ์ไม้ป่า ดอกไม้ป่า ให้ได้ชมกันเห็ดในตระกูลเห็ดหลินจือ มีให้เห็นเป็นระยะๆ มันจะขึ้นอยู่ตามซอกของต้นไม้

ต้นไม้ต้นนี้ถูกกระทำด้วยกวางป่า ที่มักจะใช้เขาสีกับลำต้น ว่ากันว่าถ้าเจ้ากวางสีต้นไหน มันก็จะมาสีต้นนั้นไม่ปันใจไปอื่น สงสารต้นไม้เชียว...
อย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าการเดินทางผ่านที่โหดๆเหนื่อยๆมา ก็จะมีการจัดมุมนั่งพักที่โคนไม้ใหญ่ให้ได้หายเหนื่อยกัน ...แปลกเนอะ แม้อากาศจะหนาวเย็น แต่ก็มีเหงื่อซึมออกมาได้... ต้นไม้ใหญ่ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นต้นก่อ จากรูปล่างคือรูปผลของต้นก่อ ที่มีผลคล้ายๆกับเกาลัดบ้านเรานั่นเอง จะเป็นไม้ป่าตัวยืนโรง เราเดินมาเรื่อยๆ เริ่มมองเห็นแสงแดดหลังผืนป่าดิบแห่งนี้...มีอะไรอยู่ข้างหน้า..กำลังรอเราอยู่ว๊าว...หลังผืนป่าดงดิบแห่งนี้ กลับกลายเป็นทุ่งหญ้าอัลไพน์ ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สวยงามมาก
เส้นทางระยะที่สอง เป็นทุ่งหญ้าอัลไพน์ อันเลื่องชื่อ สถานที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นฉากรักให้กับภาพยนตร์เรื่องดัง "รักจัง" ดังนั้นเส้นทางนี้จึงถูกจัดเป็นเส้นทางแห่งความรัก อีกเส้นทางหนึ่ง...เราเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชมกับทุ่งหญ้าอัลไพน์ และเคยไฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่ง จะได้เธอมาเป็นฉากหลังในวันนี้ เราได้มาพิชิตแล้ว...ก็เลยต้องถ่ายรูป..กันหน่อยเราใช้เวลาค่อนข้างนาน กับบริเวณทุ่งหญ้าแห่งนี้ เพราะหลงไหลในความสวยงาม ถ่ายรูปแล้วถ่ายอีก ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้มาอีก ตกหลุมรักอย่างจังเลย...หลังจากชื่นชมกับทุ่งหญ้าอัลไพน์จนหนำใจ เราก็มายังจุดชมวิวทิวทัศน์ที่เป็นหน้าผาเปิดโล่ง ที่ระดับความสูง 2,000 เมตร มองเห็นทิวทัศน์ด้านล่างเป็น เมืองแม่แจ่ม ...สวยงามมากที่บริเวณแห่งนี้เรียกว่า "แง่มน้อย" เป็นแท่งหินใหญ่ 2 แท่ง โผล่ขึ้นมาจากผืนดิน ในลักษณะแปลกตา เจ้าหน้าที่บอกว่า แท่งหินทั้งสองนี้เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกนั่นเอง...หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ ก็พาเราไปแอบดู เจ้ากวางผา พวกเราต้องเดินไปกันอย่างเงียบๆ โชคดีที่นักท่องเที่ยวมีแค่เราเท่านั้น วันนี้เราเลยได้เห็นเจ้ากวางน้อยวิ่งโลดแล่น กินหญ้าอย่างน่าเอ็นดูนี่คือ "ภูเขารักกัน" จริงนะ เห็นรึเปล่าระหว่างเขาสองลูกที่เปรียบเสมือนผู้หญิง ผู้ชาย แล้ว ยังมีหัวใจดวงน้อยๆ อยู่ระหว่างกลางด้วย...เชื่อแล้วว่าเป็นเส้นทางแห่งความรัก...อิ๊ๆแล้วเราก็มาถึงเส้นทางไคล์แม็ก อีกหนึ่งที่ ที่เป็นที่มาของชื่อ ที่เรียกว่า "กิ่ว" กิ่ว ก็คือเส้นทางแคบๆ เลาะเลียบริมผาสูงชัน นั่นเอง บริเวณนี้ต้องเดินเรียงเดี่ยว ตรงบริเวณไหนต้องระวังมากๆ จะมีราวรั้วไม้มากั้น ช่วงนี้ก็ต้องระวังกันหน่อย ถ้าเราไม่ประมาท เดินอย่างระมัดระวัง ค่อยๆเดิน ชมนกชมไม้ ชมวิว ก็สบายๆ ชิลๆ ...ช่วงระหว่างทางเดินบริเวณกิ่ว ทางด้านซ้ายมือและขวามือตอนท้ายๆ จะเต็มไปด้วยต้นกุหลาบพันปี หรือ ดอกคำแดง ที่ชอบขึ้นเป็นดงตามเขา ที่มีความสุงตั้งแต่ 1,800 เมตรจากน้ำทะเล ซึ่งโดยปกติจะบานช่วงต้นๆเดือนกุมภาพันธ์ จะแดงสล้างทั้งสองข้างทาง เรามาปลายเดือนกุมภาพันธ์ ดอกก็เหลือน้อย แต่ก็ยังพอมีให้ชื่นชม จากรูปบนน่าเสียดายที่บางส่วนของต้นกุหลาบพันปี โดนไฟป่าเล่นงาน เผาจนเป็นอย่างที่เห็นในรูป นึกแล้วใจหาย ไฟป่านี่อันตรายจริงๆ...โชคดี ที่ยังมีกุหลาบพันปีที่ขึ้นอยู่โดดเดี่ยว จึงรอดพ้นจากไฟป่าไปได้...จากรูปล่าง ต้นลาสเบอรี่ ที่กำลังออกผลสีม่วงคลุมด้วยละอองขาว แผ่คลุมเต็มบริเวณหน้าผา ทำให้หน้าผาดูนุ่มนวล ลดความเสียวลงไปได้เยอะ เจ้าหน้าที่นำทาง ชี้ชวนให้ทดลองเด็ดลูกลาสเบอรี่มาชิมดู อือม..รสชาดอร่อยมาก ลดอาการกระหายน้ำ ชุ่มคอดี นี่คงเป็นอาหารของสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่แถวนี้แน่นอน... ฝั่งขวาเป็นหน้าผา ฝั่งซ้ายเป็นป่า..ถ้าสังเกตุดีๆ ป่าที่เห็นเป็นยอดของต้นไม้ที่เบียดเสียดพุ่งเข้าหาแสงแดด ความจริงเรากำลังยืนอยู่บนเขาสูงใหญ่...นั่นเองและไฮไลท์สุดท้ายเป็นจุดชมวิวพระมหาธาตุเจดีย์ทั้ง 2 องค์ สวยเด่นเป็นสง่า สวยงามมาก ซึ่งเราตั้งใจไว้ว่าลงจากกิ่วแม่ปานแล้ว จะแวะไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล..จุดชมวิวสุดท้าย เราและสามีชื่นชมกันอย่างมีความสุข ถ่ายรูปกันจนอิ่ม จะเป็นความประทับใจสำหรับเราสองคนไปอีกนาน... จากจุดนี้ เราก็จะกลับไปตามเส้นทางป่าดิบอีกครั้ง เพื่อไปบรรจบกับทางเข้าครั้งแรก...ด้วยระยะทาง 3 กิโลเมตร ของเส้นทางศึกษาธรรมชาติแห่งนี้ เราใช้เวลาเกือบๆ 3 ชั่วโมง โดยไม่รู้ตัว..
เมื่อเราลงมา ก็พบว่าตรงบริเวณหน้าที่ทำการกิ่วแม่ปาน เต็มไปด้วยรถเหลือง ที่ให้บริการนักท่องเที่ยวจาก อ.จอมทอง - ดอยอินทนนท์เต็มลานจอดรถ สอบถามได้ความว่า เป็นคณะนักเรียนจากจ.ลำพูนมาทัศนศึกษากัน...ที่แห่งนี้ไม่เคยร้างราจากผู้คน...
ถ้าไม่เอารถมาเอง ก็ต้องใช้บริการรถเหลืองแบบนี้ เหลืองได้ใจจริงๆ อดไม่ได้ขอถ่ายรูปสักหน่อย เรากินมื้อเที่ยง ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ กันที่นี่ ด้วยความหิวโหยเป็นที่สุด คงจะไปไกลจากนี้ไม่ได้อีกแล้ว..แบบว่าหมดแรง...555 ความจริงก็คือว่าด้วยความสูงระดับนี้ ออกซิเจนจะเบาบางทำให้คนเราเหนื่อยง่าย ..นั่นเอง ช่วงบ่ายๆของวันนี้ เราจะขับรถไปชมจุดสูงสุดของดอยอินทนนท์ และไปสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ เพื่อนๆอย่าลืมติดตามนะจ๊ะ...

Vacation Remix  – (17/4/54)  

Keep up the good writing!

Vipaporn –   – (18/4/54)  

ขอบคุณค่ะ เพื่อน

แสดงความคิดเห็น

Related Posts with Thumbnails