เที่ยวดอยชัวร์ญ่า @อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

วิถีที่ดอยชัวร์ญ่า @อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

เราเดินทางออกจาก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ตอนบ่าย ก็ขับรถลุยลูกเดียว คืนนี้ตั้งใจว่าค่ำไหน นอนนั่นแน่นอน จากเพชรบุรี เราใช้เส้นทางเลี่ยงกรุงเทพฯ ผ่าน จ.ราชบุรี , จ.นครปฐม, จ.สุพรรณบุรี,จ.ชัยนาท ,ไปค่ำที่ จ.นครสวรรค์ พอดี พักที่นครสวรรค์ 1 คืน ก่อนจะตื่นเช้าลุยไปภาคเหนือต่อไป


เราและสามีตั้งใจว่าอยากถึง จ.เชียงใหม่ เร็วๆดีกว่า เผื่อจะทันบรรยากาศหนาวๆกับเค้ามั่ง จากนครสวรรค์ เราขับไปตามเส้นทาง จ.ตาก,จ.ลำปาง และ จ.ลำพูน ก่อนตัดสินใจเลี่ยงเข้าตัวเมือง จ.เชียงใหม่ ดังนั้นเมื่อเข้า จ.ลำพูน เราก็มองหาป้ายเข้าสู่ อ.หางดง,อ.จอมทอง แล้วจึงพบเส้นทางเข้าสู่ดอยอินทนนท์ดังใจหมาย ตอนประมาณบ่าย 3-4 โมง หลังจากเสียค่าธรรมเนียม คนละ 20 บาท ยานพาหนะ 30 บาท ลุย...เป้าหมายคือที่พักที่ดอยชัวร์ญ่า ที่เสียงเล่าลือ ว่าเป็นที่กางเต๊นท์ที่สวยที่สุด...ว๊า..ว ภาพที่เห็น..สวยจริงๆ เพื่อนๆ..สุดยอด..

ลานกางเต็นท์ท่ามกลางขุนเขา มองเห็นทิวทัศน์ 360 องศา ก็ว่าได้ มองเห็นน้ำตกสิริภูมิอยู่เบื้องหน้า นอกจากวิวทิวทัศน์เบื้องหน้า รอบด้านก็จะเป็นแปลงดอกไม้,แปลงผัก เช่น แครอท,ดอกเบญจมาศ ฯลฯ
ทิวทัศน์บนดอยชัวร์ญ่าเอง ก็สวยไม่แพ้กัน มีแอ่งน้ำอยู่ด้านบน ที่กางเต็นท์แห่งนี้เป็นของชาวเขา ที่แปรสภาพจากแปลงผักผลไม้ เป็นที่ท่องเที่ยวเป็นทั้งโฮมสเตย์บ้านพัก ซึ่งมีให้บริการเป็นหลังใหญ่ ราคาประมาณ 800-1,500 บาท และทำเป็นลานกางเต็นท์ ซึ่งคิดหัวละ 80 บาทที่นี่ให้บรรยากาศกางเต็นท์ที่สุด อยู่ท่ามกลางขุนเขา สายลม ได้สัมผัสลมหนาวของจริงจากที่นี่แล้ว...เราหามุมกางเต็นท์ที่กะว่า เห็นวิวทิวทัศน์แบบสุดๆ ยังไม่ทันเริ่มกางก็หนาวซะแล้ว ได้อารมณ์สุดๆ..ได้เห็นแล้วต้นสนเมืองหนาว "สนสองใบ" ที่จะมีเฉพาะตามดอยสูงๆ ที่ดอยแห่งนี้ มีให้ได้ชมกันด้วยละ..
มองไปไกล..ต้นอะไรน๊า..ดอกสีแดงเต็มต้นเลย สูงใหญ่ โดดเด่นเป็นสง่าอยู่...อยากรู้จัง พรุ่งนี้ต้องหาคำตอบให้ได้..
น่าแปลกใจจัง..ที่นี่ ในยามค่ำคืน เปิดไฟให้แปลงดอกไม้ เจ้าดอกเบญจมาศกินไฟด้วย..ดอยทั้งดอยสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ..ที่แปลงดอกไม้ พรุ่งนี้ต้องไปหาคำตอบอีกแล้ว..คืนนี้..ขอตัวไปนอนก่อนนะ..เพื่อนๆ นอนท่ามกลางความหนาวระดับ 10 องศา ..โอ้แม่เจ้า ทำไมมันหนา..ววว อย่างเงี้ย ..นอนไม่หลับเลย หนาวสุดจะทน..พี่น้อง
และแล้วแสงแรกที่ดอยอินทนนท์ก็มาเยือน ปลุกให้เราตื่นจากความหนาว ที่กว่าจะหลับได้ หนาวไปถึงกระดูกเลยง๊ะ.. ออกมาเดินออกกำลังกายชมวิวสวยๆ สบายใจแม้จะหนาวเหน็บเพียงใด (คืนนั้นน้ำท่าไม่มีใครอาบเลย..อิ๊ๆ) เราก็ผ่านมันได้ด้วยดี ตั้งใจว่าวันนี้จะไปซื้ออุปกรณ์เสริมกัน ...555อย่างไรก็แล้วแต่ พวกเราก็อิ่มเอมกับวิวทิวทัศน์ที่เห็นอยู่เบื้องหน้า มีความสุขมาก โชคดีที่คุณสามี คิดให้เอากระติกน้ำร้อนมาด้วย ที่นี่มีเต้าเสียบไฟไว้บริการใส่ไว้ในกล่องบล็อคอิฐ วางไว้ตามจุดกางเต็นท์ เราเลยได้ใช้บริการ มื้อเช้าที่ดอยชัวร์ญ่า มีความสุขจริงๆหลังจากนั้นพวกเราก็ออกไปสำรวจแปลงดอกไม้ ที่อยู่รอบๆที่พัก เป็นแปลงดอกเบญจมาศเกือบทั้งหมดเลย สอบถามชาวเขาเจ้าของ จึงได้รู้ว่าสาเหตุที่ต้องเปิดไฟให้เค้า เพื่อให้ต้นหรือก้านแข็งแรงใหญ่ ซึ่งจะทำให้ได้ราคาดี ใช้เวลาเปิดไฟให้คืนละ 2-3 ชม.จ้าดอกช่วงนี้เป็นวัยกำลังพอดี สวยๆก้านแข็งแรงก็จะได้ราคาดอกละ 3 บาท แปลงๆหนึ่งก็ได้นับหมื่นดอก โอ้..เดี๋ยวนี้ชาวเขาเค้ารวยกันหมดแล้วนะ..จะบอกให้ดอกเบญจมาศพลิกฟื้นชีวิตชาวเขา ให้เป็นเศรษฐีได้อย่างไม่ยากเย็น..
จากนั้นเราก็ไปหาคำตอบ..เจ้าดอกสีแดง ที่เห็นอยู่ไกลๆ เมื่อวานนี้ ถามเจ้าถิ่นแล้ว ก็ได้คำตอบว่า มันคือ ดอกงิ้ว หรือ ดอกเงี้ยว สามารถนำดอกไปกินกับขนมจีนน้ำเงี้ยวได้...เย้..ได้รู้จักแล้ว
เดินลงเขาไปนิดหนึ่งเจอโรงเรียนบนดอย เด็กดอย..555 ขออนุญาติเรียกนะจ๊ะ กำลังไปเรียนพอดี แก้มแดงเป็นลูกท้อเลย เลยได้ความรู้ว่าชาวเขาที่นี่ ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์จ๊ะ วันนั้นไปทันเด็กๆวอร์มร่างกาย ก่อนเข้าเรียนด้วย เนื่องจากความหนาว..ใช้เพลงประกอบของ enya เข้ากับบรรยากาศมากๆเลย...
คงไม่ลืมบรรยากาศที่ดอยชัวร์ญ่า...เราและสามีใช้เวลากับการพักผ่อนที่นี่ 2 คืน อิ่มเอมกับวิถีของผู้คน อาหารที่แสนอร่อย ท่ามกลางความหนาวเย็นที่ยากจะลืมเลือน มีโอกาสคงได้มาเยือนอีกครา..ดอยชัวร์ญ่า..เป้าหมายต่อไปของเราที่ดอยอินทนนท์ คือการไปเที่ยว สถานีเกษตรหลวงดอยอินทนนท์ และไป  เที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน นั่นเอง