เพื่อความต่อเนี่อง เพื่อนๆที่เพิ่งมาอ่าน สามารถคลิ๊คดูเรื่องราวการเที่ยวจากใต้จรดเหนือ..จากเหนือจรดใต้ก่อนหน้านี้ได้ ที่ลิงค์ด้านล่างนะจ๊ะ
แวะเขื่อนรัชชประภาจ.สุราษฏร์ธานี
แวะชมสวนนายดำ จ.ชุมพร
พิชิตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี
เราเดินทางมาถึงจ.เพชรบุรี ประมาณช่วงเย็นๆ ได้รับเสียงสนับสนุนจาก ยัยแกะห้อง 6/2 เช่นเคย บอกว่าให้นอนที่อุทยานฯแก่งกระจานนะ..สวยดี ก็เลยลุยไปตามป้ายบอกเส้นทางไปเขื่อน ถ้ามาจากจ.ประจวบฯนะจากถนนใหญ่สายหลัก หมายเลขสี่ เมื่อเข้าสู่ จ.เพชรบุรี ให้เลี้ยวซ้ายที่สี่แยกอ.ท่ายาง จากนั้นเส้นทางก็ตรงไปตลอด มีเลี้ยวบ้างบางช่วงแต่ป้ายบอกเส้นทางก็ชัดเจนดี ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบชั่วโมงก็ถึง ได้ไปทันส่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าพอดี...


นั่งชมพระอาทิตย์ตกดินแบบเต็มๆ ไม่มีอะไรมาขวางกั้น มีแต่สายน้ำ ภูเขา และขอบฟ้า อากาศเย็นสบายใกล้ชายน้ำ ที่นี่เหมาะมากกับการพักผ่อน แบบลุยๆแนวกางเต๊นท์...

ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน สามีเราก็ไปหาสถานที่กางเต็นท์ มองไปทางไหนก็สวยไปหมด เหมาะกับการเบิกศุภฤกษ์ฉลองกางเต็นท์ซะที หลังจากซื้อมานานยังหาที่กางไม่ได้..555 ในที่สุดเราก็ได้ฤกษ์ซะที..พี่น้อง


จากภาพคือแผนที่แหล่งท่องเที่ยว ในอุทยานฯแห่งนี้ ซึ่งไฮไลท์ก็คือ การขับรถขึ้นเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งนอกจากจะสูงชันแล้ว ยังอยู่ห่างจากที่เราพักเกือบห้าหกสิบกิโล กันเลยทีเดียว แต่การผจญจะเริ่มตั้งแต่ด่านเก็บบัตรซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการขับรถไต่เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งจะนับเป็นกิโลเมตรที่ศูนย์ จนกระทั่งถึงยอดคือกิโลเมตรที่ 30 ความชันของเขา ดูจากแผนที่ในรูปประกอบได้เลย... เพราะมันจะค่อยๆชันขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีการกำหนดเวลาขึ้น-ลง ของรถ เพราะรถไม่สามารถสวนกันได้ ในเส้นทางที่ชันมากๆ และนักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย


เช้าวันที่สามเราและสามี รีบตี่นแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวลุยเขาพะเนินทุ่ง ซึ่งสามารถเดินทางขึ้นไปได้ ตั้งแต่เวลา 5:30 น. จากที่ทำการอุทยานก็ขับกันไปเรื่อยๆ เส้นทางลาดยางสบายๆ หลังจากผ่านด่านเก็บบัตรแล้วก็เริ่มลุยกันเลย... มาถึงเส้นทางบ้านกร่างแคมป์ ที่กิโลเมตรที่ 15 ที่นี่ความจริงเป็นจุดพักรถ หรือเข้าห้องน้ำห้องท่าก่อนจะลุยเขา ซึ่งเส้นทางจากนี้ไปใครชอบแนวขับรถลุยๆ คงถูกใจ งานนี้รถเก๋งไปไม่ได้จ๊ะ เนื่องจากเส้นทางลุยจริงๆ ทั้งสูงทั้งชัน ทั้งแคบ จากในภาพ หลังจากผ่านบ้านกร่างแคมป์ ที่เราตั้งใจจะแวะตอนขาลง มาได้ไม่นาน ก็จะมีเส้นทางลุยลำธารประมาณ 2-3 ครั้ง ปริมาณน้ำในลำธาร ก็ขึ้นกับปริมาณน้ำฝน ในเดือนนั้นๆด้วย.. ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจคุณสามี นานๆจะได้ลุยแบบนี้ซะที

ยิ่งขับขึ้นไปก็ยิ่งชัน มองข้างทางก็มีแต่หุบเขา.. เป็นเวิ้งลึกลงไปบางทีก็เสียวเหมือนกันแหละ... จะมีป้ายบอกตามเส้นทาง เป็นระยะว่า..เช่น ณ ตรงนี้ระวังช้างนะ, ตรงนี้เป็นที่ของนกประเภทนี้นะ ฯลฯ ให้ได้ลุ้นกัน

แล้วเราก็โชคดี ได้เจอนกเงือก 2-3 ตัวแต่ถ่ายได้ตัวนี้ตัวเดียวที่อยู่นิ่ง ไม่ไปไหน นอกนั้นแค่เราขยับตัวนิดหน่อย บินหายเข้าป่าไปเลย

เรื่องความเป็นเจ้าถิ่นไม่กลัวใคร ต้องยกให้เจ้าตัวนี้ จากภาพคือนกเขาเขียว ซึ่งระหว่างทางที่เราผ่านมา บอกไว้แล้วว่าเราอาจได้เจอ แล้วก็ได้เจอจริงๆชอบอยู่กลางถนนซะด้วย ความจริงเราได้พบกวาง วิ่งผ่านหน้ารถด้วยละสนุกดี..

แล้วเราก็มาถึงยอดเขาพะเนินทุ่งที่ ก.ม.30..สุดยอดจริงๆ เราและสามีแอบภูมิใจอยู่ลึกๆ ทั้งสูงทั้งเสียวแต่ในที่สุดก็มาถึงจนได้

นี่คือลานกางเต็นท์บนยอดเขาแห่งนี้ ซึ่งมีที่กางเต็นท์ได้เพียง 150 หลังเท่านั้น ถ้าเป็นช่วงวันหยุดยาวๆก็ต้องจองก่อนล่วงหน้าด้วย แต่ในวันนี้เป็นวันธรรมดาๆ ก็เลยมีเต็นท์อย่างที่เห็น

ใช้เวลาเป็นชั่วโมง กว่าจะถึงยอดเขา ก็ยังพอไปทันทะเลหมอกอยู่นะ อากาศเย็นสบายดี ก็ต้องบอกว่าหายเหนื่อยนะเมื่อมาถึงจุดนี้

ละอองของหมอก ยังกระจายอยู่ตามหุบเขา หากได้นอนบนยอดเขาพะเนินทุ่งคง ได้เห็นมากกว่านี้นะ..

เอาซะหน่อย..กว่าจะลุยมาถึงทั้งลุ้น ทั้งเสียว.. ก็ถือว่าเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตล่ะ..งานนี้

มองไปรอบๆ เห็นความสมบูรณ์ของป่า และแนวทิวเขา.. สบายตา สบายใจ ฟังเสียงนกร้อง ก้องกังวาลไปทั่ว สุขใจแบบบอกไม่ได้..ต้องมาสัมผัสเอง


การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ก็มาจัดกิจกรรมที่นี่ เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา พาคู่รักมาจดทะเบียนสมรสกัน ที่บนยอดเขาพะเนินทุ่ง

รักกันจังที่แก่งกระจาน.. คู่เรามาตอนปลายเดือนกุมภาพันธ์แล้ว.. ที่จริงก็ยังถือว่าเข้าคอนเซ็บของงานนะ...555

นกประจำถิ่นที่เขาพะเนินทุ่ง.. นักดูนกเค้าส่องกันใหญ่เลย เราก็ไม่รู้ว่าชื่ออะไรถ่ายมาฝากเพื่อนๆนะจ๊ะ

เดี๋ยวท.ท.ท.เขาจะน้อยใจ.. ถ่ายเป็นที่รำลึกซักเล็กน้อย.. เดือนกุมภาพันธ์ก็ยังหวานได้อยู่..อิ๊ๆ

ขาลงเขาเราแวะพักรถที่บ้านกร่างแคมป์ ไปดูผีเสี้อที่ลานผีเสื้อ ความจริงเดือนกุมภาพันธ์ ไม่ใช่ฤดูกาลดูผีเสื้อ เจ้าหน้าที่บอกว่า ต้องประมาณเดือนพฤษภาคมถึงจะเยอะ

แม้นไม่ใช่หน้าฤดูกาลแต่ก็ประทับใจ.. เจ้าผีเสื้อมากมายพากันมากินเกลือ กินดิน กินพริก.. รึเปล่าไม่แน่ใจ แต่เห็นเจ้าหน้าที่โรยไว้ แล้วผีเสื้อก็มากันเต็ม.. แต่ขอบอกว่า..ถ่ายยากกว่าพี่แกจะนิ่ง..555

นั่งรอให้มันมาเป็นกลุ่มๆ.. ยากมาก งั้นขอนำเสนอแบบรายตัวไปก่อนนะจ๊ะ

มันไม่ยอมรวมกลุ่มใกล้ๆกัน ก็ถ่ายแบบห่างๆไปก่อนนะ ถ่ายมาฝากให้เห็นความสวยงามของเจ้าผีเสื้อ

การได้มานอนกางเต็นท์เป็นครั้งแรกที่นี่ ก็ถือว่าประทับใจสุดๆ บรรยากาศสวย ชวนฝันชวนสบายให้บรรยากาศท่องเที่ยว เป็นที่สุด

ห้องน้ำที่นี่สะอาด มีเจ้าหน้าที่ดูแลทั้งวันมั่นใจได้ มีหลายห้องด้วย แอบมองไปทางฝ่ายห้องน้ำผู้ชายสวยกว่าฝั่งผู้หญิงมาก แต่ไม่กล้าถ่าย..เดี๋ยวเค้าว่าเป็นพวกโรคจิต..อิ๊ๆ



เมื่อลงจากเขา แวะห้องน้ำห้องท่าเรียบร้อยแล้ว เราและสามีก็ไปลุยต่อ ตรงสะพานแขวน เท่ห์ไม่หยอกสามารถเดิมข้าม ไปยังเกาะกลางเขื่อนได้แบบสบายๆ.. ที่อุทยานแห่งนี้มีครบทุกรสเลยนะเนี่ย...ชอบๆ

แหงนมองดูท้องฟ้าผ่านดอกตะแบก.. คงได้เวลาอำลาแล้วหนอ.. การเดินทางยังคงต้องดำเนินต่อไป

แล้วเราก็พิชิตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้ในที่สุด... ไชโยๆๆ... ที่นี่จะเป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตเรา หนึ่งในความสำเร็จ "ภาระกิจพิชิตอุทยาน"...เย้