เที่ยวเกาะหนู..ชมเกาะแมว ตามความฝันเมื่อครั้งยังเยาว์

เมื่อครั้งเรายังเป็นเด็ก จำได้ว่า ทุกครั้งที่มาเที่ยวสงขลา แหลมสมิหลา แหลมสนอ่อน ฯลฯ เรามักจะมองไปยังเกาะเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดมากนัก ครั้งแรกๆที่ไปเที่ยว ก็จะมีคำถามกับพ่อแม่เสมอ "..พ่อจ๋า แม่จ๋า นั่นอะไร " พ่อแม่จะมีคำตอบให้ว่า "เกาะหนูจ๊ะ มันกำลังหมอบอยู่ ที่เห็นอยู่ไกลๆ เกาะแมว มันกำลังไล่ตามหนูอยู่..." แล้วก็ตามด้วยนิทาน ที่สนุกตื่นเต้น ของเกาะหนู เกาะแมว ที่มีตัวเดินเรื่อง หนู,แมว,หมา,พ่อค้าชาวจีน ,ดวงแก้ววิเศษ อันเป็นที่มาของสถานที่ท่องเที่ยวอันเลื่องชื่อ ของจ.สงขลา ยังจำได้ดี เรายังเคยถามพ่อกับแม่ว่า ไปเที่ยวได้มั๊ย แต่ก็ยังไม่เคยมีคำตอบ มาในวันนี้ เราได้ไปเยี่ยมชม ได้ไปเหยียบพื้นแผ่นดินบนเกาะหนู ตามหาความฝันเมื่อครั้งเยาว์วัย โดยไม่ได้คาดฝัน ก็เลยอยากส่งความสุข ที่เต็มอิ่มนี้มายังเพื่อนๆทุกคน ที่มีฝันอย่างเรา วันนี้พวกเราสามารถไปเที่ยวเกาะหนู เกาะแมว ได้แล้วจ้า... การเดินทางครั้งนี้ เริ่มขึ้นที่ท่าเรือท่องเที่ยวสงขลาเจ็ตตี้ (อยู่ใกล้กับท่าเรือแพขนานยนตร์) ที่มีเรือรองรับนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ขนาดใหญ่จุคนได้ 180 คน ,เรือลำเล็กลงมาหน่อยก็ 30 คน หรือเล็กมาอีกนิดก็ 20 คน แล้วแต่จะเลือกใช้บริการ ราคาเหมาจ่ายก็ 9,000 บาท, 3,700 บาท , 2,700 บาท เลือกไปตามช่วงเวลาที่สะดวกได้เลย แต่ถ้าไม่อยากเหมาลำ ก็ไปตามเวลาที่ท่าเรือฯกำหนด คือ วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป วันละ 1 รอบ เท่านั้น ค่าโดยสารเพียงคนละ 130 บาทเท่านั้นเอง เพื่อนๆจัดสรรเวลา ตามที่สะดวกกันได้เลย
ในวันนั้นเราโชคดีได้ไปเรือลำใหญ่ ได้ไปในช่วงเวลาตอนเช้า ทันได้เห็นแสงแรกของตะวันที่เกาะหนู ได้เห็นวิวทิวทัศน์ของชายหาดที่สงขลา ในมุมมองที่อยู่บนเรือใหญ่ สวยงามมากตลอดเส้นทางเดินเรือ รู้สึกประทับใจที่สุด ยิ่งใกล้ถึงเกาะหนู ผู้คนบนเรือโดยเฉพาะชั้นดาดฟ้าที่เราอยู่ จะตื่นเต้นกันทุกคน แทบจะไม่มีใครเลยที่ไม่บันทึกภาพเก็บเอาไว้ ผู้อาวุโสหลายคนถึงกับเอ่ยว่า "นี่อาจจะเป็นครั้งแรก และครั้งสุดท้ายของเราก็ได้ ที่จะได้มาเยือนเกาะนี้..." เราและอีกหลายๆคนที่ได้ฟัง ต่างก็พยักหน้ายอมรับโดยดุษฏี ต่อคำคมของผู้อาวุโสท่านนั้น เกาะหนูเจ้าเอย ข้ากำลังจะได้ไปชื่นชมเจ้าแล้ว... ยิ่งใกล้เข้าไปเท่าไร ใจก็ตื่นเต้น เคยเห็นเกาะนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ไม่นึกฝันว่าจะได้มาเยือน มองเห็นท่าเทียบเรืออยู่ไกลๆ ที่เกาะหนูแห่งนี้ เพิ่งจะเริ่มเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อไม่นานมานี้เอง ก่อนหน้านี้ เกาะแห่งนี้เป็นที่จอดเรือ หลบลมมรสุมของชาวประมงพื้นบ้าน ในที่สุดเราและคณะก็ได้เดินทางมาถึงเกาะหนู เกาะหนูมีพื้นที่ประมาณ 94 ไร่ นอกจากจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ล่าสุดของจ.สงขลาแล้ว เกาะนี้ยังเป็นสถาบันวิจัยเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ เกาะจะปิดในช่วงหน้าลมมรสุม ดังนั้นในการมาท่องเที่ยวที่นี่ ก็สามารถมาได้เพียงไม่กี่เดือนเช่นกัน ที่เกาะหนู จะมีเส้นทางการผจญภัยสำหรับ นักท่องเที่ยวที่ชอบแนวนี้ มีเชือกให้ไต่เขาไปสู่จุดสูงสุดของเกาะ มีร่องรอยประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทหารญี่ปุ่นได้ยึดเกาะนี้ไว้ และได้สร้างป้อมปืนใหญ่ ,สร้างหลุมหลบภัย ให้ได้ศึกษาสำหรับคนที่สนใจ แต่สุดยอดของที่นี่สำหรับใครหลายคน นั่นก็คือ การได้มาตกปลาที่นี่ ว่ากันว่า ที่เกาะหนูและเกาะแมว เป็นสวรรค์สำหรับนักตกปลากันเลยทีเดียว ดังนั้นเราจึงได้เห็นบรรยากาศกางเต็นท์ แบบในรูป สำหรับคนที่ต้องการมานอนเต๊นท์เพื่อมาตกปลา นั่งตกปลา มองเกลียวคลื่น คละเคล้าเรือใหญ่ที่วิ่งผ่านไปมา อยู่ตลอดเวลา ก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ชายหาดโดยรอบเกาะ ส่วนใหญ่จะเป็นหาดหินดินดาน สวยแปลกตาดี ไม่มีลื่น เดินสบาย อาจจะเป็นชายหาดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเกาะหนูก็เป็นได้ บริเวณภูมิทัศน์แถวชายหาด ก็จะเป็นแนวหินดินดานก่อตัว สวยแปลกตามาก ดูแล้วอลังการแตกต่างจากที่เคยเห็นทั่วไป ที่สำคัญคือ ทุกบริเวณพื้นผิวของหินไม่ลื่นเลย สภาพพื้นผิวบริเวณชายหาด เต็มไปด้วยหินก้อนเล็กๆ ที่ถูกน้ำซัดเจียระไนตามธรรมชาติ จนได้รูปทรงที่สวยงามสีสรรสวยแปลกตา ไม่แพ้เกาะหินงามที่จ.สตูล เรือเคลื่อนย้ายจากส่วนหน้าเกาะ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหัวของหนู จากรูปเรากำลังเคลื่อนย้ายจากหัวหนูและกำลังไปสู่ส่วนหางของมัน จากรูป ส่วนที่เห็นเป็นสีแดง อยู่บริเวณท้ายเกาะ ถือว่าเป็นส่วนหางของหนู ความแตกต่างของลักษณะภูมิทัศน์ของเกาะนี้อีกอย่างคือ ส่วนหัวเป็นแนวหินสีขาว แต่ส่วนหางเป็นแนวหินสีแดง กัปตันเรือบอกว่าลักษณะเช่นนี้ อาจถือได้ว่ามีแห่งเดียวในโลกก็เป็นได้ ดูกันชัดๆบริเวณส่วนท้ายเกาะ ที่เป็นหินสีแดงแปลกตามาก จนใครหลายคนคิดไปได้ว่า มันคือที่มาของการเรียกเกาะนี้ว่า เกาะหนู เพราะส่วนหางของหนูก็เป็นสีแดง เช่นเดียวกัน และถ้าเรามองจากมุมนี้ ใครหลายคนที่มีจินตนาการ อาจมองเห็นแล้วว่า ภาพที่เห็น คือภาพหนูนอนหมอบอยู่ และเห็นสันหางของมันเป็นสีแดง ..เจ้าหนูกำลังหมอบอยู่จริงๆด้วย เมื่ออิ่มเอมกับเกาะหนูแล้ว พวกเราก็ไปชมเกาะแมวต่อ นี่คือเกาะแมวในระยะที่สามารถบันทึกภาพได้หมด จะเป็นมุมมองด้านเดียวกับที่เรามองเห็นจากชายฝั่ง ภูมิทัศน์ในระยะใกล้ๆของเกาะแมว ที่นี่ไม่มีท่าเทียบเรือ พวกเราได้แต่ชื่นชมอย่างเดียว แล้วก็พยายามหามุมที่จะบ่งบอกได้ว่า นี่คือแมว.. แล้วเมื่อเรือเคลื่อนตัวไปรอบๆเกาะ เราก็ได้มุมหนึ่งที่มองเห็น ลักษณะว่าเป็นแมวนอนหมอบอยู่ จากภาพด้านซ้ายคือหัวแมว และด้านขวามือคือส่วนหางแมว เจอแล้วเจ้าแมวตัวโต..หมอบอยู่นี่เอง เมื่อสมดังใจแล้ว พวกเราเดินทางกลับเส้นทางเดินเรือ ทำให้เรามองเห็นสิ่งสวยงามของชายฝั่ง, ชายหาดได้เช่นกัน จากภาพที่เห็นไกลๆคือโรงแรมสมิหลาฯ อันเลื่องชื่อ ในมุมมองจากเรือนำเที่ยว ในวันนี้หลายคนได้เติมเต็มฝัน มันจะเป็นความทรงจำไปอีกนาน การได้มาเยือนเกาะที่เราเห็นตั้งแต่เด็กๆ เฝ้าดูมันอยู่ทุกชั่ววัน มันเป็นความประทับใจที่ยากจะลืมเลือนสำหรับใครหลายคน รวมทั้งตัวเราด้วยเช่นกันจากรูป เราและสามีก็ร่วมย้อนรอย รำลึกนึกถึงความฝันเมื่อครั้งวัยเยาว์ ด้วยการถ่ายภาพโดยมีฉากหลังเป็นเกาะแมว ที่ยากจะมีโอกาสถ่ายให้เห็นเกาะในระยะเช่นนี้ได้ เราเชื่อว่าเพื่อนเราหลายคนมีความฝันเหมือนเช่นเรา จึงขอนำภาพมาฝากเพื่อนๆ อย่าลืมมาเติมเต็มความฝันของเรา ตราบเท่าที่ยังมีโอกาสนะเพื่อน...

Unknown  – (8/3/60)  

สอบถามหน่อยครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ยังสามารถเยี่ยมชมบนเกาะแมวได้อีกไหมครับ

แสดงความคิดเห็น

Related Posts with Thumbnails