เที่ยวพระราชวังฤดูร้อน..ด้วยตัวเอง
จากการเดินทางไปเที่ยว หอฟ้าเทียนถาน ที่ได้สร้างความประทับใจมากมาย ไปเมื่อตอนที่แล้ว มาในวันนี้ เราเดินทางไปยัง ทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองปักกิ่ง เพื่อไปเที่ยว พระราชวังฤดูร้อน หรือที่คนจีนเรียกว่า อี้เหอหยวน
ตอนที่ 4 เยือนพระราชวังฤดูร้อนและอุทยานในกรุงปักกิ่ง มรดกโลกจากประเทศจีน
พระราชวังฤดูร้อน ถูกคัดเลือกให้เป็นมรดกโลก ด้วยเหตุผล คือ " ..เป็นสิ่งที่มีอิทธิพลยิ่ง ที่ผลักดันให้เกิดการพัฒนาสืบต่อมาในด้านการออกแบบทางสถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ประติมากรรม สวน และภูมิทัศน์ ตลอดจนการพัฒนาศิลปกรรมที่เกี่ยวข้อง หรือการพัฒนาการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ ซึ่งได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง หรือบนพื้นที่ใดๆ ของโลกซึ่งทรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม" ข้อมูลจากวิกีพีเดีย
วันนี้ เราจะตามรอยไปดู สถาปัตยกรรม อนุสรณ์สถาน ฯลฯ ที่ได้รับการเชิดชูนั้น ด้วยความชื่นชม...
เราต้องเดินทางไกล ออกไปนอกเมือง ไกลแค่ไหน ก็ไกลขนาดถ้านั่งรถเมล์ ก็ต้องลงจนสุดสาย เรานั่งรถไฟใต้ดิน สาย 4 ไปลงก่อนสุดปลายทาง แค่ 2 ป้าย เท่านั้นเอง เรานั่งรถไฟสาย 4 มาลงตามข้อมูล บอกว่า สถานี Yiheyuan / อี้เหอหยวน ( ชื่อเดี่ยวกันกับชื่อสถานที่ ) แต่ในความเป็นจริง สถานีชื่อนี้ไม่มี มีแต่ชื่อ iyuan / อี้หยวน ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจ ลองถามเจ้าหน้าที่ เค้าก็บอกว่า สถานีนี่แหละ คือ อี้เหอหยวน สรุปก็คือว่า ก่อนขึ้นรถ อย่าลืมถามเจ้าหน้าที่ว่า นี่ไป อี้เหอหยวน ใช่หรือไม่ ก่อนก็แล้วกัน เพื่อความมั่นใจ ขึ้นจากสถานี ก็เดินตรงไป ทางด้านซ้าย ไปเรื่อยๆ ประมาณ 200-300 เมตร โตยประมาณ ก็ถึงประตูทางเข้า ของเราขี้เกียจเดิน ใช้บริการของลุงรถถีบสามล้อ ค่าบริการคันละ 20 หยวน ก็เพลินดี
ค่าเข้าชม ช่วงที่เราไปก็ 50 หยวน เวลาเปิด-ปิด คือ 8.30-17.00 น. เดินเข้าประตูมา จะพบกับ กิเลน สัตว์นำโชค ของคนจีน เฝ้าประตูอยู่ เพื่อความโชคดี มีชัยในการเดินทางเที่ยวประเทศจีน คุณสามี ขอถ่ายรูปกับกิเลน เป็นที่เรียบร้อย
เราเดินต่อมา จนพบกับทะเลสาบ คุนหมิง ที่ดูยังไง ก็ไม่อยากจะเชื่อว่า ทะเลสาบนี้ มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้นมา อันเนื่องมาจากองค์จักรพรรดิ์ในยุคนั้น ต้องการจะเอาดินไปทำเป็นภูเขา ที่เราเห็นอยู่เบื้องหน้า นั่นเอง
เราชอบวิว ทิวทัศน์ บริเวณริมทะเลสาบ โดยเฉพาะ ต้นหลิวที่พลิ้วไหว อยู่ใกล้ๆ กับเก๋งจีน นึกถึงบรรยากาศ ในหนังจีนโบราณ ขึ้นมาในบัดดล พระราชวังกึ่งอุทยานแห่งนี้ สวยงามจริงๆ
จากด้านหน้าประตูมา จะพบกับทะเลสาบคุนหมิง โดยด้านซ้ายมือ จะเป็นเส้นทางไปเยือนสะพานโค้ง ที่ประกอบด้วยโค้ง 17 โค้ง ทอดยาวไปยังเกาะเล็ก ส่วนทางขวา จะผ่านตำหนักบนเนินเขา และไปสิ้นสุดที่ ท่าเทียบเรือหินอ่อน ของพระนางซูสีไทเฮา ซึ่งทั้งสองด้าน ระยะทางยาวไกลพอๆ กัน เราวางแผนว่าจะเดินไปทางสะพาน จากนั้นนั่งเรือ ข้ามฟากไปที่เรือหินอ่อน แล้วเดินกลับมาขึ้นเขา
มองจากจุดนี้ ที่สุดปลายสายตา เห็นท่าเทียบเรืออยู่ไกลๆ นั่นคือ ท่าจอดเรือหินอ่อน จากจุดนั้น ก็ย้อนกลับมาขึ้นวิหาร บนเขา จากภาพ จะเห็นว่า วันนี้ เดินกันอ่วม แน่ๆ เลย ดังนั้น ใครที่คิดมาเที่ยว พระราชวังฤดูร้อน ก็อย่าลืม เรื่องรองเท้า ต้องเตรียมมาสำหรับการเดิน ในเส้นทางยาวไกลหลายกิโล
ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก กับภูเขาวั่นโซ่วซาน ในภาษาไทย แปลว่า ภูเขาหมื่นปี ซึ่งบนภูเขานั้น ก็จะประกอบไปด้วย พระตำหนัก เจดีย์ พระวิหาร ฯลฯ
ตัดสินใจ เดินเลียบทะเลสาบคุนหมิง ไปทางด้านซ้ายมือ เพื่อไปชม ความสวยงาม ของสะพานหิน 17 ช่อง
ระหว่างทางเดิน พบฝูงนกเป็ดน้ำ กำลังดำว่าย ดำผุด หาปลา อยู่ริมทะเลสาบ
เจ้านกเป็ดน้ำ หัวสีเขียว ปากสีเหลือง ผิวสีน้ำตาล สวยเหมือนภาพวาด ผู้คน ผ่านมา อดไม่ได้จะต้องแวะมาชื่นชม เจ้าเป็ดพวกนี้ เรายืนดูความน่ารัก จนมันบินจากไป
ระหว่างทางเดิน มองเห็นเรือโดยสาร แบบโบราณ วิ่งอยู่ในทะสาบ ในใจคิดไว้เลยว่า เดี๋ยวฉันจะนั่งเรือ ทำตัวย้อนยุค เป็นนางสนม ในยุคนั้น.. เรือสวยงาม เข้ากับบรรยากาศ พระราชวัง
แล้วเราก็มาถึง สะพานหินที่ใหญ่ที่สุด สวยที่สุด สะพานนี้ มีชื่อว่า สือชีข่งเฉียว แปลเป็นภาษาไทย คือ สะพาน 17 ช่อง ใช้เป็นเส้นทาง เพื่อเชื่อมไปยังเกาะเล็ก ด้านหน้า ที่ชื่อว่า เกาะหนานหู
สะพานนี้ ถูกสร้างขึ้นมาอย่างประณีต งดงาม ราวสะพานเป็นหินอ่อนสีขาว มีหัวเสาทั้งหมด 128 ต้น
มีการแกะสลักสิงโตหิน ประดับไว้ด้วยท่วงท่า ลีลา ที่สง่างาม จนอดไม่ได้ ที่จะถ่ายรูป มาฝากกัน ชอบมาก
ทางขึ้นสะพาน ไปยังเกาะหนานหู
สิงโต หินสลัก ด้วยท่วงท่า สง่างาม มี ชีวิต ชีวา
สิงโต หินสลัก บนราวสะพาน มีถึง 500 กว่าตัว สะพานหินแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่เสริมให้ พระราชวังแห่งนี้ ได้รับการยกย่อง ให้เป็นมรดกโลก นั่นเอง
มุมมองทิวทัศน์ บนสะพานหิน ราวกับย้อนยุค ไปในสมัยที่ พระราชวังแห่งนี้ มีชีวิต...
มุมมองทิวทัศน์ บนเกาะหนานหู มองเห็นตำหนักใหญ่น้อย ไกลออกไป แล้วมื้อกลางวัน ของเรา ก็อิ่มอร่อยบนเกาะแห่งนี้ นี่เอง ด้วยบะหมี่สำเร็จรูปแสนอร่อย ร้อนๆ ผ่านไปได้อีก 1 มื้อ
แล้วเราก็นั่งเรือ ข้ามฟาก ไปชม เรือหินอ่อน ของพระนางซูสีไทเฮากัน
ทัศนียภาพบนเกาะหนานหู มุมมองขณะนั่งเรือข้ามฟาก สวยงามมาก
มองเห็น วิวทิวทัศน์ บรรยากาศ แบบหนังจีนโบราณ สุดๆ ชอบๆ
ต้นหลิว มีทั่วทั้งอุทยานแห่งนี้ สวยงาม ได้อารมณ์แบบจีนมากมาย
ผ่านตำหนัก น้อยใหญ่ สวยงาม อีกแล้ว
ริมฝั่ง ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี คลาสสิค โรแมนติค ขอบอก
เรากำลังผ่าน เขาวั่นโซ่วซัน ซึ่งถือเป็นจุดศูนย์กลางของพระราชวัง มองเห็น หอ ฝัวเซียงเก๋อ ที่ถูกสร้างขึ้นบริเวณเชิงเขา เป็นหอสามชั้นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ สวยงามแบบจีน
แล้วเราก็มาถึง จุดเด่นอีกหนึ่งอย่าง ของพระราชวังแห่งนี้ นั่นคือ เรือหินอ่อน ของพระนางซูสีไทเฮา
เรือหินอ่อน สิ่งก่อสร้างที่น่าทึ่ง มองไกลๆ จะเห็นเป็นเรือสองชั้น ดูสวยงาม ราวกับเรือลอยลำอยู่บนลำน้ำ แต่ความจริงคือแท่งหินอ่อนหนักมหาศาล
สร้างขึ้นตามพระประสงค์ของพระนางซูสีไทเฮา มีประโยชน์ใช้สอยเพียงพระนางนั่งจิบน้ำชาดูทิวทัศน์อยู่บนเรือนี้เท่านั้นเอง
พระนางซูสีไทเฮา ทรงได้ทำการบูรณะพระราชวังนี้ และได้ขยายต่อเติมออกไปอีกกว้างขวาง ใช้เวลาทั้งหมด 9 ปี กับจำนวนเงินมหาศาลที่เป็นงบประมาณของกองทัพเรือ โดยเฉพาะกับเรือหินอ่อนลำนี้
ทรงเป็นผู้ตั้งชื่อพระราชวังนี้ว่า " อี้เหอหยวน" มีความหมายว่า สวนแห่งมิตรภาพและความกลมกลืน และจะประทับอยู่ที่นี่ระหว่างเดือนเมษายน - ตุลาคม และจากการที่พระองค์นำเงินของกองทัพ มาใช้เพื่อสนองความต้องการของตน จนส่งผลให้ประเทศต้องพ่ายแพ้สงคราม เพราะไม่มีงบประมาณไปปรับปรุงกองทัพ เป็นเรื่องขมขี่น และเจ็บปวดที่สุด ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์จีน
เรือหินอ่อน นับเป็นสถาปัตยกรรมตะวันตก เพียงชิ้นเดียว ที่มีอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ แต่ก็ได้รับการยกย่อง ให้เป็นสุดยอดของสถาปัตยกรรม เราและคุณสามี ชื่นชมในความสวยงาม ในฐานะนักท่องเที่ยว แต่สำหรับคนจีน ท่ามกลางความสวยงาม จะมีความเจ็บปวดลึกๆ อยู่ในใจ...
พระราชวังแห่งนี้ สมแล้วกับที่ได้รับการยกย่อง ให้เป็นอุทยานที่ยิ่งใหญ่ และสวยงามที่สุด สถาปัตยกรรมแบบจีน และต้นไม้ ใหญ่น้อย ที่นี่สวยงาม สมคำร่ำลือ
โดยเฉพาะต้นหลิว ที่พริ้วไหว ลู่ลม มีให้เห็น ทั่วไป ทั้งอุทยานแห่งนี้
เราชอบดู ต้นไม้ พริ้วไหว ชอบมาก สำหรับต้นไม้ที่นี่
ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ชอบมาก สีเหลืองสวย สดใส
ต้นสน ก็สวยได้ใจ เราเดินดู เดินชมต้นไม้ สลับกับชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ซึ่งสวยงามไม่แพ้กัน
แล้วเราก็เดินทางมาถึง สิ่งปลูกสร้างที่เลื่องชื่อ อีกหนึ่งอย่าง ในพระราชวังฤดูร้อน นั่นคือ ระเบียงยาว ที่ภาษาจีนเรียกว่า ฉางหลาง ซึ่งระเบียงยาวแห่งนี้ได้รับการบันทึกให้เป็นระเบียงที่ ประดับภาพเขียนที่ยาวที่สุดในโลก และเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรม ที่ส่งเสริมให้พระราชวังแห่งนี้ ได้รับการเลือกเป็นมรดกโลก
ระเบียงยาวที่สุดในโลกแห่งนี้ จะเลียบโค้งไปตามทะเลสาบ ภายในและภายนอกระบายสีเป็นภาพวรรณกรรมจีนสวยสดงดงาม มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นอย่างยิ่ง ทางเดินแห่งนี้จะทอดยาวอยู่ริมทะเลสาบ และได้เชื่อมต่อสิ่งปลูกสร้างทั้งหลายไว้ด้วยกัน อีกด้วย
เมื่อเดินตามระเบียงฉางหลางมาได้ครึ่งทาง จะเห็นตำหนักไผอวิ๋นเตี้ยน ตั้งอยู่เชิงเขาว่านโซ่วซ่าน ซึ่งเป็นตำหนักที่ พระนางซูสีไทเฮาใช้เป็นสถานที่ จัดงานพระราชทานเลี้ยงในวันเฉลิมพระชนมพรรษา ปัจจุบันจัดแสดงสิ่งของต่างๆที่พระนางได้รับมา
จากนั้นเราก็ขึ้นบันได เพื่อเข้าสู่หอเจดีย์ ฝอเซียง สำหรับการ ไหว้พระ สวดมนต์ บนนี้ สามารถชมวิวทิวทัศน์ ทั่วทั้งพระราชวัง สวยงามมาก
อีกหนึ่งมุมมอง มองเห็นตึกรามบ้านช่อง สมัยใหม่ ในยุคปัจจุบัน
มุมมองจาก บนนี้ มองขึ้นไป จะพบอีกหนึ่งวิหาร อยู่บนสุด
ถึงแล้ว วิหารนี้ มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ อยู่ภายใน ผู้คนเข้ามากราบไหว้ ขอพร
มุมมองจากวิหารนี้ มองเห็น ยอดเจดีย์ ฝอเซียง สวยงามมาก
บนนี้ ได้มุมมอง เจดียฝอเซียง ที่สวยงามมาก คุณสามี ต้องโลดโผนตะกาย ขึ้นไปถ่ายบนชะง่อนหิน กันเลยทีเดียว ภายใน เจดีย์ฝอเซียง มีองค์เจ้าแม่กวนอิม ประดิษฐานอยู่ พวกเราก็ไปไหว้ ขอพร ให้เดินทางด้วยความปลอดภัย... บนยอดเขาแห่งนี้ มีนกกางเขนด้วย
ก่อนจะกลับ เจอมุมนี้เข้าให้ คนผู้ชายกำลังวาดภาพอย่างเมามัน
ใช้เทคนิค การวาดภาพ แบบโบราณ สวยดี สอบถามได้ความว่า รับเขียนชื่อ เป็นสไตล์แบบวาดภาพ แผ่นละ 20 หยวน เห็นเข้าท่า ก็เลย เขียนชื่อ เราและ คุณสามี ให้ไป แล้วรออยู่ประมาณ 10 นาที
ก็จะได้อย่างที่เห็น แสดงว่า เค้าทำได้ทุกภาษา โดยใช้ศิลปะ เข้าไป นั่นเอง เยี่ยม ได้ของที่ระลึก อีกหนึ่งอย่าง
ชื่นชมกับความสวยงาม อันยิ่งใหญ่ ของพระราชวังฤดูร้อนของพระนางซูสี ไทเฮา ที่ภายในพระตำหนักเพียบพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ที่ให้ความสำราญแด่พระนางซูสี ไทเฮา เมื่อครั้งอดีตกาล ต้องยอมรับว่า อลังการณ์ในทุกๆ ที่ ที่ได้ไปชม เป็นอีกหนึ่งที่ ที่เพื่อนๆ ไม่ควรพลาด ด้วยประการทั้งปวง
ในตอนต่อไปเราจะไปเที่ยวชม พระราชวังต้องห้าม กัน เพื่อนๆ อย่าลืมติดตามนะจ๊ะ
ตอนที่ 5 พระราชวังต้องห้าม พระราชวังโบราณ ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
สวยงามจริง ๆ ครับ ขอบคุณที่เก็บภาพมาให้ดู