เที่ยวกำแพงเมืองจีน
ตอนที่ 2 >> เยือนกำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
จาก ตอนที่ 1 สัมผัสหิมะที่เมืองปักกิ่ง ความประทับใจอันดับแรกในประเทศจีนมาแล้วนั้น การท่องเที่ยวด้วยตนเอง ทำให้เราได้พบกับประสบการณ์ ที่แสนจะประทับใจมากมาย รวมถึงการได้มาเยือนกำแพงเมืองจีน ในยามที่หิมะปกคลุมเยี่ยงนี้
จากการเดินทางด้วยเท้า ในระยะทางถึง 3 กิโลเมตร อันเนื่องมาจากหิมะตกหนัก ทำให้ถนนหลายเส้นทางถูกปิด เราเดินทางกันมายาวนาน กว่าจะมาถึงกำแพงเมืองจีน แต่เมื่อมาถึงแล้วภาพที่เราเห็นอยู่เบื้องหน้า ทำให้เราหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง...
กำแพงเมืองจีน ที่เราไปเยือนเป็นช่วงที่อยู่ในด่านปาต๋าหลิ่ง ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่กำแพงเมืองจีน ยิ่งใหญ่อลังการณ์ที่สุด และเป็นเส้นทางที่สามารถมาได้ด้วยตนเอง นั่นก็คือ นั่งรถเมล์สาย 919 ที่อยู่ด้านหลังประตูเมือง Deshengmen ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน สาย 2 สถานี Jishuitan นั่นเอง รถเมล์ไปด่านปาต๋าหลิ่ง จะออกเดินทางเที่ยวแรกเวลา 5.30 น. - 12.00 น. หากนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่สถานี Jishuitan นี้แล้ว จะมีป้ายบอกทางตลอดเส้นทาง ว่าไปขึ้นรถเมล์สาย 919 ณ จุดใด...
เวลาเปิด-ปิด อยู่ที่ 6.40-18.30 น. ค่าเข้าชม ช่วงที่เราไป คือเดือน พ.ย ราคา 40 หยวน
คนจีนเรียกกำแพงเมืองจีนว่า ฉางเฉิง ซึ่งแปลว่า กำแพงยาว และมักจะเปรียบกำแพงเมืองจีน เหมือนดั่ง มังกรตัวมหึมา ที่ทอดกายยาวสุดลูกหูลูกตา
ด้วยความที่กำแพงเมืองจีน ยิ่งใหญ่ ยาวไกลสุดสายตา จนใครหลายคนมีความเชื่อว่า เราอาจมองเห็นกำแพงเมืองจีนได้ เมื่อเรามองมา จากนอกโลก โดยเฉพาะบนดวงจันทร์ ชึ่งถือว่าเป็นดวงดาวที่อยู่ ใกล้โลกมากที่สุด...นั่นเอง
แม้กำแพงเมืองจีน จะเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม เบื้องหลังความยิ่งใหญ่ ก็คือความเจ็บปวด
มีการบันทึกไว้ว่า นักโทษจากสงครามและทาสกว่า 1 ล้านคนถูกใช้เป็นแรงงงานเพื่อก่อสร้างกำแพงเมืองจีน ซึ่งจำนวนมากเสียชีวิตลงเนื่องจากความเหน็ดเหนื่อย และความหิวโหย ซึ่งศพผู้เสียชีวิตก็จะถูกฝังอยู่ข้างใต้กำแพงนั่นเอง
กำแพงเมืองจีนได้ชื่อว่าเป็นสุสานที่มีความยาวที่สุดในโลก เป็นที่กล่าวขานกันว่าทุกๆ หนึ่งฟุตของกำแพงเมืองจีนก็คือหนึ่งชีวิตของผู้ก่อสร้างกำแพง
ฤดูหนาว ยามที่หิมะปกคลุม สร้างบรรยากาศ เหงาๆ เศร้าๆ หากนึกถึงเรื่องราวของผู้คน ที่ต้องมาสูญเสียชีวิตที่นี่...
อย่างไรก็ตาม นักโบราณคดี ได้ตรวจวัดความยาวของสิ่งก่อสร้างจากน้ำมือมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือ "กำแพงเมืองจีน" อย่างเป็นทางการนานร่วม 5 ปี ตั้งแต่ 2008-2012 และพบว่ายาวกว่าที่บันทึกไว้เดิมกว่า 2 เท่า หรือ 21,196.18 กิโลเมตร จากเดิม 8,850 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศ ( ข้อมูลจากวิกีพีเดีย)
ถึงกระนั้น ชาวจีน มีความภาคภูมิใจ ในการที่กำแพงเมืองจีน ถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เมื่อถึงช่วงเทศกาลวันหยุด ชาวจีนจะแห่กันมาเที่ยวกำแพงเมืองจีน ชนิดที่เรียกได้ว่ามืดฟ้ามัวดิน เต็มไปด้วยคนจีน ดังนั้น ควรวางแผนการเดินทางมาเยี่ยมชม กำแพงเมืองจีนให้ดี มิเช่นนั้น จะพบแต่คลื่นมนุษย์ ไม่มีที่ให้ถ่ายรูปกันเลยทีเดียว
ในความเป็นจริง กำแพงเมืองจีน ถูกสร้างเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว ตั้งแต่ก่อนสมัยของจิ๋นซีฮ่องเต้ จักรพรรดิองค์แรกในประวัติศาสตร์จีน จุดประสงค์ก็เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ โดยมีการก่อสร้างเพิ่มเติมโดยฮ่องเต้องค์ต่อมาอีกหลายพระองค์ จนสำเร็จในที่สุด กำแพงเมืองจีนถือเป็นงานก่อสร้างที่มหัศจรรย์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเท่าที่เคยมีมา ( ข้อมูลจากวิกีพีเดีย)
กำแพงเมืองจีนไม่ใช่กำแพงยาวตลอด ความจริงแล้วกำแพงเมืองจีน ถูกสร้างขึ้นในหลายยุคหลายสมัยกินเวลานับพันปี โดยเป็นการเชื่อมต่อกำแพงแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน จนเป็นแนวทอดยาวหลายพันกิโลเมตร
จะอย่างไรก็ตาม แม้จะสร้างไว้ยิ่งใหญ่เพียงใด ในประวัติศาสตร์จีนก็จารึกไว้ว่า พวกชนเผ่าเร่ร่อนจากมองโกเลีย และแมนจูเรีย ก็ยังบุกฝ่ากำแพงเมืองจีนได้สำเร็จ ( ข้อมูลจากวิกีพีเดีย)
ร่วมภาคภูมิใจ ในสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่สร้างโดยน้ำมือมนุษย์
สภาพของกำแพงเมืองจีนในขณะนี้ รายงานผลการสำรวจของนักอนุรักษ์เมื่อปี 2004 กล่าวว่า ขณะนี้ กำแพงเมืองจีนที่ยาว 6,350 กิโลเมตร เหลือให้เห็นเพียง 1/3 เท่านั้น และกำลังสั้นลงเรื่อยๆ ปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากการขาดการดูแลและอนุรักษ์ นั่นเอง
มีคำถามมากมาย ที่ตั้งคำถามไว้ว่า กำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นโดยใช้อะไรเป็นส่วนประกอบ คำตอบคือ ก่อนที่จะมีการใช้อิฐในการก่อสร้าง กำแพงเมืองจีนถูกสร้างขึ้น โดยใช้หิน ดิน และไม้ บางครั้งมีการแพ็คดินไว้ระหว่างไม้แผ่นใหญ่ และมัดไว้ด้วยกันโดยเสื่อทอ บริเวณใกล้กรุงปักกิ่ง กำแพงเมืองจีนถูกสร้างโดยใช้หินอ่อน ในบางสถานที่กำแพงถูกสร้างโดยใช้หินแกรนิต บางแห่งก็ใช้ดินเผา ทางตะวันตกของจีน กำแพงถูกสร้างโดยใช้โคลน ทำให้ชำรุดได้ง่ายกว่า กำแพงเมืองจีนที่เราเห็นกันทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ถูกสร้างในราชวงศ์หมิง โดยใช้วัตถุที่ทนทานกว่าเช่นหิน
ในสมัยก่อน ในการสร้างกำแพงเมืองจีน จะใช้วัสดุที่หาได้ในบริเวณใกล้เคียง บนยอดเขาเหล่านี้ คือแหล่งวัตถุดิบอย่างดี
กำแพงเมืองจีนไม่ได้เป็นแค่กำแพง ทุกๆ 300 ถึง 500 หลา จะมีฐานบัญชาการเพื่อใช้สับเปลี่ยนเวรยามและใช้เป็นจุดสังเกตการณ์ มีหอสังเกตการณ์กว่า 1 หมื่นแห่ง
ในระยะแรก ประโยชน์ของกำแพงเมืองจีนก็คือ มันช่วยให้การคมนาคมและขนส่งในเส้นทางทุรกันดาร เช่นตามเทือกเขาเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น
เราเดินสำรวจกำแพงเมืองจีน พร้อมนึกถึงเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับความเป็นมา เป็นไป ของสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่แห่งนี้ จนเย็นย่ำ บรรยากาศชวนให้เหงาๆ เศร้าๆ บอกไม่ถูก
มองลงไปด้านล่าง เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่ กำลังเชิญธงชาติลงจากเสา ไม่แน่ใจว่า เหมือนกับบ้านเราหรือไม่ อย่างไร
ผู้คนเริ่มบางตา คุณสามีเดินมาตามว่า กลับได้แล้ว เพราะยังไม่รู้เลยว่า จะกลับเข้าเมืองโดยวิธีใด
สุดท้ายสรุปได้ว่า ไม่มีรถเมล์ให้กลับอย่างแน่นอน ด้านนอก มีพวกรถเช่า มาเรียกให้เหมาเข้าเมือง ในราคาที่สูงลิบลิ่ว แต่เรามีเป้าหมายอยู่ในใจแล้ว ก่อนมาถึงกำแพงเมืองจีน เราแวะกินมื้อเที่ยงที่สถานีรถไฟ แอบเห็นเวลารถไฟเข้า-ออก เข้าไปในตัวเมืองปักกิ่ง มีถึงเวลา สามทุ่ม กันเลยทีเดียว ด้วยราคาค่าโดยสาร เพียงคนละ 5 หยวน เท่านั้นเอง...
เราร่ำลากำแพงเมืองจีน สถานที่ ที่ใฝ่ฝันมาตลอดว่า จะต้องถือโอกาสมาเยือนให้ได้ ในวันนี้ ฝันได้เป็นจริงแล้ว สวยงามและยิ่งใหญ่ สมคำล่ำลือจริงๆ
แสงอาทิตย์ ลาจากขอบฟ้าไปอย่างรวดเร็ว ในฤดูหนาวนี้ เราเดินออกจากซุ้มประตู เก็บความประทับใจ
อีกครั้ง ที่เราได้รับ จากการได้มาเยือนประเทศนี้
ในตอนต่อไป เราจะไปเยือน หอฟ้าเทียนถาน หนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรม ของประเทศจีน จะยิ่งใหญ่ อลังการณ์ หรือไม่อย่างไร ต้องติดตามตอนต่อไป....
** ข้อมูลอ้างอิง จากวิกีพีเดีย
ตอนที่ 3 เยือนหอบูชาฟ้าเทียนถาน