เที่ยวปักกิ่ง..ด้วยตัวเอง
สวัสดี..ปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่อยู่ในความใฝ่ฝันของใครหลายคน ที่อยากจะไปเยือน เราเองก็เป็นหนึ่งในใครหลายคนนั้นด้วย เราตั้งโปรแกรมไว้นานมาก..กก นานนับ 4-5 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับการไปเยือนด้วยตนเอง อยากไปซึมซับสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ สำคัญๆ อย่างเต็มที่ ถ่ายรูปเต็มที่ โดยไม่สนใจเวลา กิน อยู่ เที่ยว อย่างคนจีน.. เราเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้ ภาษาจีนพื้นฐาน เพื่อเอาตัวรอดได้ เนื่องจากคนจีน ไม่นิยมใช้ภาษาต่างประเทศ การรู้ภาษาจีนไว้บ้าง จะทำให้การเดินทางคล่องตัวมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ลำดับต่อมา เราเรียนรู้เกี่ยวกับระบบขนส่ง เส้นทางการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยเฉพาะการเดินทางโดยรถไฟใต้ดิน ที่ทั้งถูก และสะดวกสบาย และลำดับสุดท้าย คือการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเยือนจีน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เราได้รวบรวมรายละเอี่ยด ไว้ใน บันทึกการเดินทางไปปักกิ่ง เพื่อนๆ ที่สนใจ สามารถเข้าไปอ่านกันได้ ในลำดับต่อไป...
ตอนที่ 1 >> สัมผัสหิมะที่เมืองปักกิ่ง ความประทับใจอันดับแรกที่ประเทศจีน
เราเดินทางจากประเทศไทย เมื่อช่วงต้นๆเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เป็นการเริ่มต้นฤดูหนาวพอดี เราชอบอากาศหนาว ตามประสาพวกประเทศเมืองร้อน ตอนลงจากเครื่องการบินไทย สจ๊วตหนุ่มทักว่า "พี่ที่ปักกิ่งหิมะลงนะ หนาวแน่..." ในใจเรากลับหัวเราะชอบใจ ให้มันจริงเห๊อะ จะหนาวซะให้เข็ด... เรานึกภาพเห็นเป็นร่องรอยหิมะ เล็กๆ ให้ได้กรี๊ดกร๊าดกัน อะไรประมาณนั้น ที่ไหนได้....สิ่งที่เราได้พบ มันคือ หิมะจริงๆ ตัวจริง ตัวเป็นๆ จัดหนัก จัดเต็ม โอ๊..แม่เจ้า สุดยอดที่สุด ที่สุดของชีวิตครั้งหนึ่ง กันเลยทีเดียว
อันเนื่องมาจาก เรามีความกระหาย ต้องการอย่างแรงกล้า ที่จะไปเยือนกำแพงเมืองจีน สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ดังนั้นโปรแกรมแรกของเรา เมื่อเดินทางมาถึงจีน ก็คือไปกำแพงเมืองจีน ที่ด่านป๋าต๋าหลิ่ง ซึ่งเป็นด่านที่มีกำแพงเมืองจีนที่ยิ่งใหญ่ อลังการณ์ที่สุด ตามข้อมูลคือ เราจะต้องเดินทาง โดยนั่งรถเมล์สาย 919 ที่หลังประตูเมืองเต๋อเฉิงเหมิน ในอัตราค่าโดยสารคนละ 12 หยวน เท่านั้นเอง เราก็ไปตามนั้น นั่งรถเมล์ไป จนกระทั่งเข้าเขตชานเมือง ใกล้กับด่านปาต๋าหลิ่ง สองข้างทางก็เริ่มขาวโพลนด้วยหิมะ...ว๊าว
เราตื่นเต้นมากๆ มองไปทั้งซ้ายและขวา ของเส้นทาง เต็มไปด้วยหิมะ เหมือนอย่างที่เคยเห็นในหนัง สวยงามมาก เราถ่ายรูปขณะอยู่บนรถตลอดเวลา กดชัตเตอร์ ครั้งแล้ว ครั้งเล่า ในใจก็คิดไปว่า เมื่อคืนหิมะคงตกหนักที่นี่ อย่างแน่นอน
เรานั่งรถเมล์ไป จากที่เห็นป้ายด้านหน้าบอกว่าอีกไม่กี่ร้อยเมตรข้างหน้า จะถึงด่านปาต๋าหลิ่ง จนมีความรู้สึกว่านั่งรถมาไกลเป็นหลายกิโล จากป่าก็เริ่มเป็นเมืองอีกครั้ง ในใจก็คิดว่า นั่งรถผิดอีกแล้วรึเรา...
แต่ด้วยความที่ไม่เคยเห็นหิมะ ก็เลยคิดไปว่า ช่างมัน นั่งรถไปเรื่อยๆ ถือโอกาสนี้ชมหิมะก็แล้วกัน ค่อยไปเริ่มต้นใหม่ตรงที่สุดสายแล้วกัน ตอนนี้ขอชมหิมะก่อน
ในใจคิดไปว่า นี่แค่ค่ำคืนเดียว หิมะยังหนาถึงขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นบ้านเรา ก็เปรียบเสมือน ฝนตกทั้งคืน น้ำท่วมกระจาย เป็นแน่แท้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเราออกเดินทางกันสายแล้ว ตอนอยู่บนรถก็ใกล้ๆเที่ยงแล้ว จะเห็นว่าบนถนน มีการกวาดหิมะออก เพื่อให้รถสามารถวิ่งสัญจร ไป-มาได้คล่องตัว นี่ถ้าเราออกแต่เช้า รถคงติดแน่นอน
เรานั่งอยู่บนรถเมล์สาย 919 ที่เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ว่ามันจะพาเราไปที่ไหน นั่งโดยไม่ได้วิตกกังวลอะไรเลย คงเป็นวิวทิวทัศน์ สองข้างทางที่เต็มไปด้วยหิมะ เป็นอะไรที่เราไม่เคยพบเห็น มาก่อน นั่นเอง
ในที่สุด รถเมล์ก็มาสุดสายที่นี่ ซึ่งก็คือเมือง หยางชิ่ง (Yang Qing) ซึ่งก็ถือเป็น 1 ใน 16 เขต การปกครองของกรุงปักกิ่ง นั่นเอง ซึ่งเราเอง ก็เพิ่งจะรู้ในภายหลังว่า ในคืนวันนั้น ที่เมืองหยางชิ่ง มีหิมะตกลงมาอย่างหนัก บางจุดหิมะตกหนักมาก ทับถมต้นไม้หักล้มทับเสาไฟฟ้า ทำให้ประชาชนหลายพื้นที่ ไม่มีไฟฟ้าใช้....
ด้วยความที่ไม่ยอมแพ้ ถึงแม้จะมีอุปสรรคบ้าง รถเมล์เข้าด่านปาต๋าหลิ่งไม่ได้ เราก็เหมาแท็กซี่ จากเมืองหยางชิ่ง ไปกำแพงเมืองจีน ด่านปาต๋าหลิ่ง ซะเลย ในราคา 100 หยวน ด้วยระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ก็ถึงทางเข้าด่านปาต๋าหลิ่ง จนได้
กับการสัมผัสหิมะครั้งแรกในชีวิต ต้องถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย รถแท็กซี่มาทิ้งไว้ตรงทางเข้า นั่นเอง
เส้นทางเดินทางไปกำแพงเมืองจีน ต้องเดินอ้อมภูเขาลูกนี้ไปก่อนจ้า.. ไม่หวั่นอยู่แล้ว เพราะสองข้างทางสวยเหลือเกิน ไม่นึก ไม่ฝัน จะได้มาสัมผัสหิมะที่เมืองจีน ...สุดยอดจริงๆ
วิวสองข้างทาง เกินคำบรรยายจริงๆ ถ้าไม่คิดว่า เจ้าหิมะ ทั้งหนา ทั้งเย็น จะเข้าไปวิ่งเล่น ให้หนำใจเลย
มองเห็นกำแพงเมืองจีน อยู่ลิบๆ ไกลสุดลูกหู ลูกตา
เส้นทางเห็นได้อย่างชัดเจน ว่า รถใหญ่ผ่านไม่ได้อย่างแน่นอน เราเพิ่งมารู้ภายหลังว่า ในวันนั้น ในเขตหยางชิ่ง เต็มไปด้วยหิมะหนา ส่งผลให้การจราจรติดขัดบนถนนหลวง รวมถึงทางด่วนหลายสายที่มุ่งหน้าไปยังกำแพงเมืองจีน นอกจากนี้ ใกล้ๆกับกรุงปักกิ่ง ได้ปิดถนนหลวง10 สายเป็นการชั่วคราว เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ
และในวันนั้น คณะทัวร์ในรูปแบบต่างๆ ต่างพากันยกเลิกการเดินทางมากำแพงเมืองจีนทั้งสิ้น ซึ่งถ้ามาวันหลัง ก็จะพลาดชมบรรยากาศแบบมีหิมะสองข้างทาง นั่นเอง
เจ้าหนูน้อย เดินเล่นหิมะ มาตลอดทาง จนมือแดงหมดแล้ว คงจะสนุกไปอีกแบบ ผู้ใหญ่อย่างเรา เห็นแล้ว อยากจะเล่นบ้างจัง...
คุณสามี ไม่รอช้า รีบไปคว้าหิมะ สองกำมือ ปากก็บอกว่า ถ้ามีน้ำแดง น้ำเชื่อม ราดบน คงจะดี...ฮา
อือม...หิมะ ขาวบริสุทธิ์จริงๆ อย่างคุณสามีว่า เอาน้ำเฮลบลูบอย มาราดบน คงอร่อย เป็นแน่...
เราเดินเท้าเป็นกิโลๆ แต่ไม่มีความรู้สึกว่าเหนื่อยแต่อย่างใด ยิ่งมองเห็นภูเขาสูง กลับรู้สึกสดชื่น อย่างบอกไม่ถูก
หนทาง ยังอีกยาวไกล แต่เราก็ไม่หวั่น เพราะเส้นทางเราโรยด้วยหิมะ หิมะ และหิมะ นั่นเอง
ภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ เป็นบุญตา ที่ได้มาชื่นชม
เส้นทางสายนี้ จะเป็นเส้นทางแห่งความทรงจำ ของเราตลอดไป
ด้วยระยะทางเกือบ สามกิโลเมตร เราเดินได้แบบไม่รู้สึกเหนื่อยแต่อย่างใด เพราะวิวที่สวยงาม นั่นเอง
ด้านหน้า คือ สถานีรถไฟ การเดินทางมาด่านปาต๋าหลิ่ง นอกจาก รถเมล์สาย 919 แล้ว สามารถ มาโดยรถไฟได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าในยามปกติ รถเมล์จะจอดตรงหน้าด่านเลย ไม่ต้องเดิน แต่ถ้ามารถไฟ ก็ต้องเดินเท้าต่ออีก ประมาณ 750 เมตร นั่นเอง
สำหรับเรา ในยามที่หิมะ มาไม่ปกติ ก็ต้องเดินกันโดยรวม ประมาณ 3 กิโลเมตร จ้า...
เจ้าหน้าที่ กำลังทำงานอย่างขมักเขม้น เราเพิ่งมารู้ภายหลังว่า ในวันนั้น ตำรวจจราจรต้องปฏิบัติหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคอยแนะนำให้ผู้ขับขี่รถยนต์เพิ่มความระมัดระวัง และคอยบอกเส้นทางการจราจรที่สามารถเดินทางได้ด้วย
ภาพแปลกตา ถ้าเป็นบ้านเรา รถคงกำลังขุดคุ้ยดิน แต่สำหรับที่นี่ เป็นรถกวาดหิมะ ได้เป็นอย่างดี
รถกวาดหิมะ ต้องถ่ายเป็นที่ระลึกกันหน่อย บ้านเราไม่มีให้เห็น
เจ้าหน้าที่ รวมพลังกันอย่างหนัก เพื่อให้นักท่องเที่ยว เดินทางได้สะดวก ในวันพรุ่งนี้
วันนี้ ร้านค้าปิดทำการหมดเลย บางร้านหน้าร้านยังเปิดไม่ได้
วันนี้ ทั้งร้านค้า และโรงแรมในย่าน ด่านปาต๋าหลิ่ง ปิดหมด ทั้งแถบ โชคดี มื้อเที่ยง ได้อาศัย บะหมี่สำเร็จรูปที่สถานีรถไฟ ช่วยชีวิต ไว้ได้
เต็มอิ่มไปด้วยหิมะ
ทางเข้าอีกประมาณ 400 เมตร ก็จะถึงกำแพงเมืองจีนแล้ว
แถวนี้หน้าร้านค้า อาการสาหัสมาก เพราะกองหิมะ เป็นพะเนิน
เห็นกำแพงเมืองจีน อยู่บนเนินเขาข้างหน้าแล้ว แต่ก็ยังละลานตากับ ลานหิมะอยู่เลย
คุณสามี เจอรูปปั้นด้วยหิมะ ไม่รอช้า เข้าไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซักเล็กน้อย ... บรรยากาศแบบ คริสมาสต์ ยังใง ยังงั้น
อื้อหือใบสน น่าจะเอาโบว์ เอาของขวัญมาติด เป็นต้นคริสมาสต์ ซะนี่...
ในตอนต่อไป เราจะพาไปชม กำแพงเมืองจีนแบบหนาวๆ หิมะปกคลุม สวยไม่เหมือนใคร ..หลงรักหิมะ สุดหัวใจ
สัมผัสหิมะแรก ที่เมืองปักกิ่ง ประทับใจที่สุด ในทวีปเอเชีย สุดยอด ต้องยกให้ ประเทศจีน อลังการณ์ งานสร้างในทุกเรื่อง โดยเฉพาะเมืองปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีนแห่งนี้
นอกจากนี้ โบราณสถานในปักกิ่งที่ตกทอดสืบต่อมาและมีปรากฎให้เห็นจนถึงทุกวันนี้มีมากมาย เช่น พระราชวังต้องห้าม หอบูชาฟ้า พระราชวังฤดูร้อน เป็นต้น
สถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นมรดกทางประศาสตร์อันสำคัญทั้งของจีน และของโลก เราจะทะยอยนำเสนอ ในลำดับต่อไป..
ตอนที่ 2 >> เยือนกำแพงเมืองจีน 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก