นครวัด นครธม (3) : Ancient Angkor

นอกจาก นครวัด และ นครธม แล้ว ยังมีกลุ่มปราสาท ที่แสดงให้เห็นอารยธรรมของขอมโบราณ อีกมากมาย ภายใน 1 วัน ท่องเที่ยว ไม่จบแน่นอน เราเลยเลือกซื้อตั๋วสำหรับ เข้าชมได้ 3 วัน คิดเป็นเงินดอลล่าห์ ก็เท่ากับ 40 เหรียญ นอกจากนี้ เราได้ซื้อคู่มือการเที่ยวโบราณสถานที่นี่ ซึ่งมีขายอยู่ทุกที่ ที่เราไปชมปราสาท ชื่อหนังสือคือ Ancient Angkor เขียนโดย Michael Freeman , Claude Jacques ราคาตามปกหนังสือ คือ 27.95 เหรียญ แต่ต่อรองไปมา เหลือ 5 เหรียญ เราเห็นว่าถูกดี ก็เลยซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งในหนังสือ นอกจากจะบอกถึงความเป็นมา เป็นไป ประติมากรรมที่โดดเด่น ฯลฯ ยังได้จัดอันดับความน่าสนใจ ของกลุ่มปราสาทต่าง ๆ ไว้เป็นข้อมูล สำหรับการตัดสินใจ ได้เป็นอย่างดี...



สำหรับเรา หลังจากไปชมปราสาทบายน อันเป็นศูนย์กลาง ของเมืองพระนครหลวง หรือ นครธม เราก็ไปต่อกันที่ปราสาทปาปวน ซึ่งหลังจากปิดซ่อมแซมมาหลายปี ปีนี้ก็เปิดให้เข้าชมได้แล้ว โชคดีเป็นของนักท่องเที่ยวอย่างเรา ต้องบอกก่อนว่า ทุกปราสาทล้วนมีความน่าสนใจ และแฝงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์เหนือคำบรรยายจริงๆ




ที่นี่เล็กๆ ไม่ มีแต่ใหญ่โต เดินมาถึงชั้นสอง ก็เล่นเอาหอบ ขอนั่งพักถ่ายรูปหน่อยเหอะ เพราะอีกประเดี๋ยว จะต้องขึ้นบันไดอันสูงชัน เพื่อไปชั้นบนสุด ใครจะมาเที่ยวฟิตร่างกายหน่อยก็ดีนะจ๊ะ...555

มุมมอง จากชั้นบนสุดของปราสาท ปราสาทปาปวนถือเป็นเทวสถาน ในศาสนาฮินดู ปราสาทหันหน้าไปทาง ทิศตะวันออก สร้างในสมัยพระเจ้าอุทัยทิตวรมันที่ 2


หลักฐานที่บ่งบอกว่า เป็นเทวสถานในศาสนาฮันดู นั่นคือ มีทางเดินหินยกระดับ รองรับด้วยเสากลม อยู่เบื้องล่าง ทางเดินนี้จะทอดยาวถึงตัวปราสาท นักโบราณคดี สันนิษฐานว่า ที่ปราสาทแห่งนี้ เป็นต้นแบบศิลปะแบบปาปวน และน่าจะเป็นต้นแบบภาพสลักปราสาทในประเทศไทย เช่น ปราสาทหินพิมาย , ปราสาทเมืองต่ำ



ถัดจากปราสาทปาปวน ก็จะเป็นฐานพระราชวังหลวง หรือท้องสนามหลวงแห่งราชอาณาจักรขอม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 ลานบริเวณด้านหน้า ว่ากันว่า กว้างใหญ่ พอๆ กับสนามหลวงบ้านเรา สันนิษฐานว่า เป็นลานกองทัพ สำหรับรวบรวมพลก่อน ไปออกรบ



และนี่คือลานช้าง มีสำหรับกษัตริย์เสด็จทอดพระเนตรการแสดง สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สิ่งที่น่าชมก็คือความสวยงามของชุดภาพหินสลัก




มุขที่ยื่นออกมา มีภาพสลักของครุฑ ซึ่งภาพหินสลัก จัดเป็นศิลปะแบบบายน



ถัดมา คือลานพระเจ้าขี้เรื้อน ภาพสลักส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปยักษ์ ถือดาบ สลับกับรูปพระมเหสี ที่นั่งในท่าต่างๆ กัน อลังการจริงๆ


ภาพสลักที่ฐานด้านล่าง รูปสลักพญายักษ์ ดูงดงามอลังการที่สุด ช่างขอมโบราณสุดยอดจริงๆ



ภาพสลักของโบราณสถานทุกที่ จะต้องมีภาพ ของนางอัปสร ในท่วงท่าที่ต่างกันไป ที่นี่ เป็นท่วงท่า นางอัปสรกำลังเต้นรำ ดูขลังจริงๆ




ปราสาทพิมานอากาศ จัดเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5



ปราสาทตาแก้ว แบบฉบับการสร้างปราสาทที่มีระเบียงคตล้อมรอบ สร้างในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 5




ปราสาทตาพรหม สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่พระมารดา ที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว สร้างขึ้นตามความเชื่อ ทางพุทธศาสนาลัทธิมหายาน




ปราสาทตาพรหม จัดเป็นโบราณสถาน ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น นั่นคือ การมีต้นไม้ใหญ่ที่ขึ้นแผ่ปกคลุมตัวปราสาท เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ ใครๆ ต้องไม่พลาดมาชม แม้แต่ฮอลลีวูด ยังใช้ฉากนี้ สร้างชื่อให้ แอนเจลีน่า จากภาพยนตร์เรื่อง Tomb Raider มาแล้ว




ปราสาทตาพรหม ปัจจุบันเป็นศูนย์ศึกษาโบราณสถาน ที่ถูกทำลายด้วยธรรมชาติ รากของต้นไม้ใหญ่ปกคลุมไปทั่วปราสาท


รากไม้ขนาดใหญ่มหึมา เข้าปกคลุมตัวปราสาทตาพรหม บางจุดปกคลุมตั้งแต่หลังคา จนถึงฐาน แต่ภาพรากไม้ที่ชอนไช ไปตามส่วนต่างๆของปราสาท กลับเป็นเสน่ห์ดึงดูด นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี



รากไม้ที่ปกคลุม มีตั้งแต่ รากของต้นไทร , ต้นสะปง , ต้นสระเลา แต่ทุกที่ ที่ถูกปกคลุม จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยว นิยมมาถ่ายรูปกันมากที่สุด



ทุกปราสาท จะมีนักวาดภาพ มานั่งวาดภาพ แล้ววางเรียงขาย ซึ่งภาพที่วาดมาแล้วนั้น ล้วนแล้วแต่น่าสนใจ จนอดไม่ได้ ที่จะแวะไปยืนชม ราคาก็อยู่ที่ 8-10 เหรียญ



ปราสาทพระขรรค์ สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 จัดว่าเป็นวัด ในศาสนาพุทธ ลัทธิมหายาน สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่พระราชบิดา ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โดดเด่นด้วยอาคารสองชั้น คล้ายทรงโรมัน



ภายในปราสาท มีสถูปเจดีย์องค์เล็ก ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นสถูปบรรจุพระอัฐิ ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปราสาทแห่งนี้ จึงเป็นที่เคารพของชาวเขมร ชาวเขมรจะนิยมมา สักการะบูชา




ลวดลายสลักหินส่วนใหญ่ ประดับตกแต่ง อยู่ตามหน้าบันทับหลัง



รูปสลักหินที่พบที่ปราสาทพระขรรค์ เป็นศิลปะขอมแบบบายนทั้งสิ้น


ปราสาทแปรรูป สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2 เป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู


เป็นเทวสถาน ที่ใช้เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์ สันนิษฐานว่า ปราสาทแห่งนี้ น่าจะเป็น สถานที่ถวายพระเพลิงพระ
บรมศพ ของพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2
บันไดขึ้นสู่ปรางค์ประธาน ทั้งสูงและชัน ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ปราสาทแปรรูป ถือเป็นต้นแบบศิลปะแบบแปรรูป

ปราสาทพนมบาแคง จัดเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 ถือว่าเป็นศูนย์กลางของเมือง ในยุคนั้น สร้างอยู่บนเขาขนาดย่อม การเดินทางไปชม เล่นเอาเหนื่อยกันเลยทีเดียว


ลักษณะเด่น ของนางอัปสรที่ปราสาทพนมบาแคง ก็คือนางอัปสรนุ่งผ้าถุง แบบมีจีบรอบตัว ไม่เหมือนที่ปราสาทอื่น



ปราสาทบันทายสรี อีกหนึ่งปราสาทที่ไม่ควรพลาดชม อลังการงานแกะสลักหินขั้นเทพ จัดเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าราเชนทรวรมันที่ 2



ปราสาทบันทายสรี เป็นปราสาทขนาดเล็ก แต่เต็มไปด้วยลวดลาย การแกะสลักที่ละเอียดสวยงาม บนหินทรายเนื้อละเอียดสีชมพู จนแทบไม่มีที่ว่าง แม้แต่เพียงตารางนิ้ว เรื่องราวต่างๆ ถูกจารึกลงบนก้อนหินทุกก้อน เสาทุกต้นกันเลยทีเดียว


ภาพที่สลักลงบนหน้าบัน ทับหลัง เต็มไปด้วยความวิจิตรงดงาม อย่างที่สุด


ปราสาทบันทายสรี ถือได้ว่าเป็นโบราณสถาน ที่สมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่ง



ภาพสลักส่วนใหญ่ เป็นประติมากรรมแบบนูนสูง โดยเฉพาะภาพนางอัปสร ที่มีความงามต่างไปจากนางอัปสร ที่ปราสาทแห่งอื่น


นอกจากนั้น ยังมีภาพสลักเล่าเรื่องราว เกี่ยวกับศาสนาฮินดู



แต่ที่สุด ของที่สุดต้องยกให้ ภาพสลักรูปนางอัปสร สวยงามมาก... แม้จะใช้เวลาเดินทางค่อนข้างใกล กว่าจะเดินทางมาถึงปราสาทแห่งนี้ แต่ถือว่าคุ้มค่าที่สุดที่ได้มาชม



ทุกปราสาทที่เราได้ไปชม ล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์สวยงาม ตามแต่เอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างกันออกไป เพื่อนๆ ที่จะไปเที่ยวชม อย่าลืม บริหารเวลาในการไปชมให้ดีนะจ๊ะ เพราะที่นี่เขามีปราสาทเป็นร้อยๆ ปราสาทให้ได้ชมกัน ในตอนหน้าเราจะเล่าเรื่อง การเดินทางไปเที่ยวครั้งนี้โดยละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อนๆ ที่อยากไปเที่ยวชมด้วยตนเอง อย่าลืม ติดตามนะจ๊ะ