บันทึกการเดินทางไปเที่ยวไร่เลย์

ปีใหม่นี้ ตั้งใจจะไปเที่ยวในบรรยากาศ แบบทะเล๊ ทะเล ตัวเลือกที่ผุดขึ้นมาในสมอง ก็มี ทะเลสตูล ที่เกาะหลีเป๊ะ , ทะเลตรัง ที่เกาะสารพัดเกาะ , ทะเลกระบี่ ที่อ่าวนาง หาดไร่เลย์ สุดท้ายก็ได้ข้อสรุปว่า ถ้าไปเกาะหลีเป๊ะ ในฤดูกาลนี้จะรำคาญกับการรอเรือสปีดโบ๊ท..มากมาย ตัดไปหนึ่ง , ทีนี้ก็เหลือทะเลตรัง กับทะเลกระบี่ ที่สุด ก็ได้ข้อสรุปว่า ทะเลกระบี่ น่าจะดีที่สุด สุดท้าย เราก็เดินทางไปจังหวัดกระบี่..ดินแดนมรกตแห่งภาคใต้....



เป้าหมายของเรา คือ อ่าวนาง ซึ่งก็เป็นเส้นทางเดียวกันกับ หาดนพรัตน์ธารา ไปเที่ยวอ่าวนาง ก็เหมือนได้ไปเที่ยว หาดนพรัตน์ธารา เช่นเดียวกัน เพราะอยู่ใกล้กันนิดเดียว ฝรั่งนิยมพักที่อ่าวนาง ส่วนคนไทย นิยมพักที่หาดนพรัตน์ธารา ใครชอบบรรยากาศแบบไหน ก็ตัดสินใจเลือกกันเองนะจ๊ะ...



เราชอบเส้นทางในจังหวัดกระบี่มาก เพราะเส้นทางส่วนใหญ่ จะตัดผ่านภูเขาหินปูน น้อยใหญ่ สวยงามมาก ได้บรรยากาศ ป่าฝนเมืองร้อน ยิ่งใกล้ๆจะไปถึงอ่าวนาง เส้นทางจะยิ่งสวยงามมาก การเดินทางไปอ่าวนาง ไปได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเริ่มต้นจากในตัวเมือง หรือไปตามเส้นทางไป จ.พังงา ก็เดินทางได้ไม่ยากเย็น เราไปตามเส้นทางนอกเมือง คือไปตามเส้นทางไปจ.พังงา เพราะขี้เกียจเข้าตัวเมืองกระบี่ ก็ดูตามป้ายไป ถ้าไม่แน่ใจก็จอดรถ ถามทางจากคนท้องถิ่น ก็ถึงได้เหมือนกัน



จ.กระบี่ เป็นจ.ที่ผลิดปาล์มน้ำมันมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ ก็ว่าได้ ระหว่างเส้นทาง จึงพบเห็นแต่ต้นปาล์มมากมาย เรียงรายตามท้องถนน จนเรามาพบกับสวนปาล์มที่ยืนต้นตาย ทั้งสวน มองไปคล้ายกับฝูงอสูรกายเปรต ผุดมาจากนรก ยังไง ยังงั้น ถ้าขับมาตอนกลางคืน มีเรื่องแน่ๆ...นำภาพมาฝากกัน หากใครไปกระบี่ ต้องพบเจอแน่นอน



ในความตั้งใจ คือจะต้องไปเที่ยวที่ไร่เลย์ แต่ไม่อยากนอนที่นั่น ปีใหม่ทั้งที ต้องมีเรื่องแสงสีเสียง บรรยากาศเค้าดาวน์กันบ้าง ก็เลยตัดสินใจพักที่อ่าวนาง จากแผนที่ด้านบน จะเห็นว่า อ่าวนาง อยู่ไม่ไกลจากไร่เลย์ มีเพียงสันเขากั้นไว้เท่านั้น ส่วนหาดนพรัตน์ธารา ก็อยู่ถัดจากอ่าวนางไปทางทิศเหนือนิดเดียวเอง

การเดินทางไปอ่าวไร่เลย์ ถ้าไปเองไม่ผ่านทัวร์ ทำได้โดยการซื้อตั๋วเรือหางยาว ซึ่งตั้งที่ทำการอยู่ตรงป้อมตรงหัวโค้งถนนอ่าวนาง ซื้อตั๋วแล้วก็ลงเรือหางยาวตรงท่าเทียบเรือตรงนั้นได้เลย ค่าเรือไป-กลับ คนละ 200 บาท เราสามารถระบุว่าให้ไปส่งที่ตรงไหนได้เลย หากดูจากแผนที่เรือจะไปส่งได้ตามจุด เช่น ที่อ่าวต้นไทร , อ่าวไร่เลย์ตะวันตก , อ่าวไร่เลย์ตะวันออก , หาดถ้ำพระนาง เราเลือกจะลงที่อ่าวไร่เลย์ตะวันตก  ซึ่งโดยปกติหากบอกว่าไปไร่เลย์ จะหมายถึง อ่าวไร่เลย์ตะวันตกนั่นเอง



ถ้ามากับทัวร์ เป็นหมู่คณะ ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดเป็นทริปท่องเที่ยวเกาะที่อยู่ใกล้ๆ อ่าวนาง เช่น ท่องเที่ยวเกาะแบบวันเดียวเที่ยวหลายๆเกาะ เช่น เกาะปอดะใน , เกาะปอดะนอก ฯลฯ และจะรวม อ่าวไร่เลย์ และ หาดถ้ำพระนาง อยู่ในทริปเดียวกัน ราคาท่องเที่ยวแบบนี้ จะอยู่ที่คนละ 1,200 บาท และได้นั่งเรือสปีดโบ๊ท ดังรูป ชอบแบบนี้ก็ติดต่อได้ ตรงอ่าวนาง ได้เลย มีติดป้ายบริการให้เห็นมากมาย โดยจะทำการออกเดินทาง ตั้งแต่ 9.00 น. เป็นต้นไป



ของเรานั่งแบบเรือหางยาว เมื่อรอครบ 8 คน เรือหางยาวก็ออกเดินทางทันที ซึ่งก็ไม่ต้องรอนาน เพราะจะมีผู้โดยสารเดินทางอยู่ ตลอดเวลา เรือมาส่งเราตรงหาดไร่เลย์ ตรงนี้ ก็จะมีร้านอาหาร ร้านค้า รีสอร์ท มากมายให้ได้ซื้อหา เดินชม แต่ถ้าจะเตรียมความพร้อม ซื้อข้าวกล่องมาจากฝั่งอ่าวนาง ก็จะประหยัดได้อีก เพราะที่นี่ราคาสินค้าก็จะสูงเป็นเรื่องธรรมดาจ๊ะ



เรือหางยาวมาส่งเราตรงจุดนี้ และหากมองจากจุดนี้ ก็จะเห็นสันเขา เป็นภูเขาเป็นแนวยาว กั้นไม่ให้เรา สามารถเดินทางมาที่ไร่เลย์ได้ นั่นหมายความว่า ไร่เลย์แท้จริง ก็เป็นผืนแผ่นดินใหญ่ ที่มีเขากั้นกลาง ไม่ได้เป็นเกาะแก่งแต่อย่างใด


ทั้งฝั่งด้านซ้ายและด้านขวา มีสันเขาหินปูน สูงตระหง่าน ขวางกั้นเป็นแนวอ่าว และบังลมได้เป็นอย่างดี ตรงนี้ จะเป็นจุดที่รับ-ส่ง ผู้โดยสาร และเป็นจุดสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ของผู้คนที่มาพักรีสอร์ทที่นี่ ช่วงที่เรามา เป็นช่วงเทศกาลวันหยุดยาว รับปีใหม่ จึงมีเรือมาจอดเทียบท่ามากมาย



จากหน้าหาดไร่เลย์ ก็จะมีถนนคนเดิน ที่สามารถเดินทะลุ ไปอีกฝั่งได้ ซึ่งเราก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ มากันเอง แบบไม่ผ่านทัวร์ ทำให้เรามีเวลา เดินชม เดินเที่ยวแบบสบายๆ ชิลด์ๆ




เมื่อ 2 ปีที่แล้วเรามาเที่ยวที่ไร่เลย์ ยังไม่มีถนนคนเดิน ก็แสดงว่า เพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่นาน เราว่าก็ดีนะ จะได้มีอะไรๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการชมไปรอบๆ อ่าวไร่เลย์



มีหลายร้านที่น่าสนใจ คุณสามีก็ถูกใจร้านนี้ เป็นร้านแนวแอนทีค แบบผสมผสาน ก็ดูเพลินๆ ดี



พอมาถึงร้านนี้ ก็ได้ภาพมาอีกหนึ่งช็อท ร้านนี้เห็นมีฝรั่งนั่งเฝ้าหน้าร้าน ไม่แน่ใจว่าเป็นเจ้าของรึเปล่า ถ้าใช่ เป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่คนไทยโดนแย่งงานอีกแล้ว...หุ หุ



เด็กฝรั่ง เด็กไทย เข้ากันได้ แม้จะสื่อกันไม่รู้เรื่อง เรียกว่า ใช้สัญชาติญาณความเป็นเด็ก ก็เป็นมิตรต่อกันได้ โดยไม่จำกัด ชาติหรือภาษา... น่ารักง๊ะ



น้องฝรั่งคนนี้ก็น่ารัก ขอถ่ายรูป ยืนยิ้มให้ถ่ายอย่างเต็มใจ น่ารักมาก ภาษาฝรั่งต้องเรียกว่า เฟรนด์ลี่ มาก...มาก


จากถนนคนเดิน เราก็เดินทะลุ มาถึงฝั่งไร่เลย์ตะวันออก ฝั่งนี้ ก็จะมีเรือมาเทียบท่าส่งผู้โดยสาร อยู่ตลอดเวลาเช่นกัน รีสอร์ทฝั่งนี้ มีอยู่เต็มชายหาดเรียงรายตลอดชายฝั่ง



เราสามารถเดินเลียบชายหาดไปจนถึง สุดแนวชายเขาทั้งสองฝั่ง ซึ่งจากการได้ดูแผนที่ เราสามารถเดินจากชายฝั่งด้านนี้ ไปทะลุถึงถ้ำพระนางใน  มีโอกาสคงได้ลองดูสักครั้ง



เราเดินไปฝั่งด้านซ้าย แล้วเดินย้อนกลับมาฝั่งด้านขวา ชายหาดไร่เลย์ตะวันออกนี้ ไม่สวยเหมือนหาดด้านหน้า บางที่ บางจุด มีโคลนผสม แต่ก็ยังได้บรรยากาศทะเลอยู่.. โชคดี ที่ชายหาดที่ไร่เลย์ แม้นจะมีรีสอร์ทอยู่เต็มทั้งด้านหน้า และด้านหลัง แต่ก็ไม่ถูกปิดกั้น นักท่องเที่ยวทั่วไป สามารถเดินเที่ยวเล่นได้ ไม่เหมือนที่เกาะภูเก็ต หรือ ที่เกาะสมุย



เราจะไม่ได้บรรยากาศเดินชมรอบอ่าวแบบนี้ หากเรามากับทัวร์ จุดที่น่าสนใจ ของชายหาดตะวันออกนี้ ก็คือ การได้ไปดู ไปชม ฝรั่งปีนเขากัน ตามป้าย Climbing Place



มาตรงจุดนี้ จะได้เห็นบรรดา นักท่องเที่ยวชาวฝรั่งทั้งหลาย มาทำกิจกรรมแนวแอดเวนเจอร์ ปีนเขากัน แบบสนุก และลุ้นระทึก จุดปีนเขาที่ไร่เลย์ เป็นอีกหนึ่งจุด ที่นักปีนเขาจะต้องมาปีนให้ได้



บริเวณนี้ จะมีแนวสันเขาที่เป็นแบบเบสิค และแบบแอดวานซ์ ให้ได้เลือกลองดู เป็นที่ถูกอก ถูกใจ ของฝรั่งตาน้ำข้าวเค้าล่ะ



ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ปีนได้ ปีนดี ที่แน่ๆ ต้องแข็งแกร่ง มิฉะนั้น จะปีนไม่หวายเลยนะ..จะบอกให้



ฝรั่งปีนเขา ไต่เขากันไป เราคนไทย ก็ยืนมอง ยืนดู บางทีก็แอบลุ้น แอบหัวเราะ เวลาที่ฝรั่งทำผิดพลาด หวังว่า ฝรั่งคงไม่ว่าอะไรนะ เราไม่ได้หัวเราะเยาะ แต่เราดูเป็นสิ่งบันเทิง นะตัวเอง...



ฝรั่งผู้ชายคนนี้ ท่าทางจะทักษะดี มีแววไปถึงยอดเขา หากไปถึงยอดเขา จะมีรางวัล เป็นวิวทิวทัศน์ ของทั้งสองฝั่งของอ่าวไร่เลย์ ให้ได้ชมกัน ซึ่งถือว่าจุดนี้เป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกจุดหนึ่ง



ด้านล่างก็มีฝรั่งสาว มือสมัครเล่นกำลังติวเข้ม กับผู้ฝึกสอน ก่อนจะไปลุย แว่วๆ ว่าสาวเจ้าเป็นทนายความ แต่อยากลองไต่เขา ว๊าว .. งานนี้มีลุ้น



เราเดินลัดเลาะไปตามเส้นทาง เพื่อไปยังหาดถ้ำพระนาง ผ่านจุดพัก ตรงนี้ จะมีการบอกเล่า ประวัติ ความเป็นมา ของถ้าพระนาง ว่ามีตำนานเป็นมาอย่างไร ใครสนใจ ก็แวะอ่านได้เลย



ระหว่างเส้นทางเดินไป ถ้ำพระนาง เราต้องเดินลัดเลาะ ชายเขา พบต้นไม้ แมกไม้ แบบป่าดงดิบ ให้ชมตลอดทาง อันนี้ คือดอกไม้ที่ร่วงหล่นจากต้น...



ต้นไม้ที่ว่า คือต้นนี้ ไม่แน่ใจว่า จะเป็นต้นเต่าร้างหรือไม่ จะมีต้นไม้แบบป่าดงดิบภาคใต้ ให้ได้ชมกันตลอดเส้นทาง



ระหว่างทาง ก็จะมีทางให้ปีนขึ้นไปยังจุดชมวิวแบบพวกไต่เขา ได้เช่นกันถ้าปีนไหว ความจริงเราก็อยากไปชมจุดชมวิว แต่เนื่องจากวันนี้ มีฝนลงโปรยปราย เส้นทางคงจะลื่นมากมาย เลยขอผ่านไปก่อนจ้า นอกจากนี้ ตามเส้นทางเราจะพบปรากฎการณ์น้ำหยดจากชะง่อนหิน ตลอดเวลา... จนกลายมาเป็นชะง่อนหินสูงขึ้นมา...



ชะง่อนหิน ที่ก่อตัวจากหยดน้ำ จากหินงอก หินย้อย มีผู้คนศรัทธา มาขอพร แล้วได้สมประสงค์ จึงนำผ้ามาผูกไว้ เป็นการตอบแทน.... หรือเป็นการแสดงความเคารพ นั่นเอง



ชะง่อนหินปูน กับต้นไม้ ที่คละเคล้า คลอเคลียกันอยู่ มีให้เห็นตลอดเส้นทางการเดินทาง เป็นอีกหนึ่งมุมมอง ที่สวยงาม หากเราไม่มองผ่านมันไป...



หินย้อย ที่เราได้เห็น โดนทำร้ายจากนักท่องเที่ยว โชคดี ที่เราไม่เห็นภาษาไทย แสดงว่า คนไทย ไม่มีนิสัย ในการสลักชื่อบนหิน.... เราหวังไว้เช่นนั้น



ใกล้ๆ จะถึงเส้นทางที่บรรจบกับ หาดพระนาง เราพบเจ้าถิ่น นั่งรับแขก อยู่หลายตัว ลิงที่นี่ เท่าที่เห็น ไม่มีนิสัยก้าวร้าวเหมือนบางที่ เค้านั่งมองผู้มาเยือน เผื่อจะมีใครให้ของกิน...



เส้นทางจากชายฝั่งตะวันออก เดินมาจรด หาดถ้ำพระนาง ไม่ไกลมากนัก เดินกำลังสบายๆ ก็มาถึงหาดถ้ำพระนาง ตรงจุดนี้ เรือท่องเที่ยว นิยมจะพานักท่องเที่ยว มาปล่อยที่นี่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป และเล่นน้ำกัน



และตรงบริเวณนี้ ก็เป็นที่พักผ่อนกายา ของใครบางคน อาบแดดแบบไม่มีแดด ก็รับได้จ้า วันนี้มีฝนลงโปรยปราย แดดยังไม่สามารถทะลุก้อนเมฆมาได้... คงต้องรออีกสักพัก



ฝนหยุดแล้ว แต่พระอาทิตย์ยังไม่สามารถสาดส่องลงมาได้ ก็ได้บรรยากาศสวยไปอีกแบบหนึ่ง



ถ้ำพระนางที่มองเห็นอยู่ใกลๆ คราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ที่แวะเวียนไปไหว้ ขอพร หลังจากนั้น ก็ลงเล่นน้ำทะเลกัน ตรงชายหาดพระนางแห่งนี้ เหมาะสำหรับการเล่นน้ำที่สุด ชายหาดเนียน ทรายเนื้อละเอียด น้ำใส น่าเล่นน้ำมาก



นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ เล่นน้ำกันอย่างมีความสุข ตรงนี้ไม่มีคลื่น มากวนใจ เหมือนเล่นน้ำอยู่ในสระน้ำ...



และตรงจุดนี้ ก็เป็นที่เทียบเรือ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการจะกลับไปขึ้นฝั่ง ที่อ่าวนาง วันนี้มีเรือมาเกยมากเป็นพิเศษ เพราะอยู่ในช่วงเทศกาลวันหยุดยาว นั่นเอง เราขอนั่งเล่นเดินเล่น อีกสักหน่อย ตรงจุดนี้ น่าจะเป็นจุดที่สวยที่สุดของไร่เลย์ ก็ว่าได้



จากจุดนี้ มองเห็นเกาะปอดะ อยู่ไม่ไกลมากนัก เส้นทางเดินเรือ สำหรับนักท่องเที่ยว ที่ชอบเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ แบบเที่ยววันเดียว


กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยว คือการพายเรื่อคายัค จากฝั่งอ่าวนาง มายังหาดถ้ำพระนาง หรือจากฝั่งอ่าวไร่เลย์ตะวันตก มายังจุดนี้



สำหรับชายหาดถ้ำพระนางแห่งนี้ เป็นจุดพักผ่อน จุดเล่นน้ำ จุดชมวิวทิวทัศน์ และ จุดนำสายตา จากนักท่องเที่ยว ที่มาเที่ยวหาดแห่งนี้



จุดนำสายตา จากสาวสวย มีให้เห็นตลอดเวลา ดูแล้วเพลินตาดี



บรรดาเรือยอร์ช ก็นิยม มาแวะพักผ่อนที่นี่ หลากหลายรูปแบบการพักผ่อน มีให้เห็น เหมือนๆ กับชายฝั่งทะเลอันสวยงามของไทย ทั่วไป


ณ จุดนี้ พักสายตาได้เป็นอย่างดี เราใช้เวลา นั่งๆ นอนๆ ถ่ายรูปอยู่บริเวณนี้ จนเย็นย่ำ



ไม่น่าแปลกที่มุมนี้ เป็นที่ถูกใจของนักท่องเที่ยว ไม่ว่าคนไทย หรือ ชาวต่างชาติ ได้บรรยากาศโรแมนติคดี...


คงทำให้ใครหลายคน ได้กลิ่นไอของทะเล ขึ้นมาบ้างล่ะ...



มาเที่ยวไร่เลย์ แล้วตั้งโปรแกรม มาเล่นน้ำ  ดำน้ำ นั่งๆ นอนๆ ที่นี่ คุ้มค่าที่สุด กับทริปมาเที่ยวทะเล... ณ ตรงนี้ ยังมีมุมส่วนตัว ให้ได้พักผ่อนกัน



รีสอร์ทที่ไร่เลย์ จะราคาค่อนข้างสูง แต่ชายหาดที่สวยที่สุด กลับไม่ได้ถูกจับจองเป็นของใคร พักที่ฝั่งอ่าวนาง แล้วมาพักผ่อนที่นี่ ทั้งวัน ได้อย่างสบายใจ ถ้ากลัวหิวอาจจะเตรียมของกินมา หรือไม่ก็หาซื้อกันที่นี่ มีเรือเคลื่อนที่สำหรับขายของกินโดยเฉพาะ หลายลำ ให้ได้เลือกซื้อ มีบริการเสื่อ สำหรับอยากนั่งๆ นอนๆ กันได้ ในราคาที่.. พอจะซื้อหากันได้



แดดออกแล้ว ได้เล่นน้ำสมใจกันซะที คู่รัก คู่นี้ ไม่รีรอ ทะยานลงน้ำในทันที อือม.. น่าจะมีความสุขดี สำหรับใครหลายคน ที่กำลังวางแผนการ ท่องเที่ยวทะเล...



การมาเที่ยวไร่เลย์ ในครั้งนี้ สิ่งที่เราสัมผัสได้ในทันที คือความเปลี่ยนแปลงในเรื่อง ของวัตถุ มีรีสอร์ทเพิ่มขึ้นมากมาย โดยเฉพาะฝั่งไร่เลย์ตะวันออก มีร้านค้า ร้านอาหาร เครื่องดื่ม อยู่ติดริมฝั่งทะเลด้านนั้น มองในแง่ดี นักท่องเที่ยวสามารถนั่ง ดื่มกิน บริเวณนั้น แบบใกล้ชิดทะเลสุดๆ แต่ถ้ามองอีกแง่หนึ่ง เรามองเห็นการปล่อยน้ำทิ้ง น้ำเสีย ลงทะเล ได้อย่างชัดเจน บริเวณนั้นน้ำดำเป็นเทือก มีขยะ เกลื่อนสะพัดมากมาย... เราไม่รู้ว่า อ่าวไร่เลย์ จะอยู่ในสภาพอย่างไร ในอีกหลายๆ ปีข้างหน้า...

อย่างไรก็ตามไร่เลย์ ก็ยังคงเป็นอ่าวไร่เลย์ ที่มีมนต์ขลัง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างเราได้เสมอ แอบหวังไว้ว่า อ่าวไร่เลย์ จะสวยงาม คงอยู่กับ จ.กระบี่ ไปอีกนานเท่านาน..รักนะ อ่าวไร่เลย์