เที่ยวปราสาทโอซาก้า...ด้วยตัวเอง

การท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ของเรานั้น ส่วนใหญ่เราจะเน้นไปเที่ยวแบบดูธรรมชาติ ดูความเป็นตัวตนของคนญี่ปุ่น และดูศิลปะวัฒนธรรม มากกว่าการมาดูความศิวิไลท์ของบ้านเมือง ดังนั้นในวันสุดท้ายของการท่องเที่ยวในประเทศนี้ เราจึงตั้งใจไปชมความงดงามของ ปราสาทโอซาก้า ก่อนจะเดินทางกลับประเทศไทย

ประเทศญี่ปุ่น ก็คล้ายๆกับประเทศไทย หรือ ประเทศส่วนใหญ่ ในโลกนี้ ที่กว่าจะมาเป็นประเทศ ต้องเริ่มจากการสร้างเมือง มีวีรบุรุษ กอบกู้ประเทศ ซึ่งกว่าจะมารวมกันเป็นประเทศได้ ต้องผ่านอุปสรรคนานัปประการ... กว่าจะมาเป็นไทย ก็ต้องมี กรุงสุโขทัย, ต้องมีกรุงศรีอยุธยา กว่าจะเป็นญี่ปุ่น ก็ต้องมีหัวเมืองโอซาก้า ซึ่งมีปราสาทโอซาก้า ที่เป็นสถานที่ ที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น นอกเหนือไปจากสถาปัตยกรรมอันงดงาม ถ้ามาเที่ยวประเทศนี้แล้ว ก็ต้องไม่พลาดมาชมปราสาทแห่งนี้ให้ได้ อย่างแน่นอน

การเดินทางไปปราสาทโอซาก้า นั่งรถไฟ JR OSAKA Loop Line มาลงที่สถานี Osakajokoen ตามชื่อเลย jo ภาษาญี่ปุ่นแปลว่า ปราสาท ส่วน ko-en ก็แปลว่าสวน ลงสถานีนี้ ก็ได้เที่ยวสวนปราสาทโอซาก้าด้วย จากสถานี เดินออกกำลังกาย ชมสวนไปด้วย ไม่นานก็ถึง ตลอดทางมีป้ายบอกเป็นระยะ ว่าทางเข้าปราสาทไปทางไหน

ไม่นานเราก็เดินทางมาถึงประตูทางเข้าปราสาทโอซาก้า ภาพสะพานเชื่อมทางไปสู่ปราสาท คลาสสิค สวยงามมาก... กำแพงหินเก่าแก่ตั้งตระหง่านเลียบคูคลอง นำพาเรามาถึงประตูทางเข้า...

ระยะทางเป็นกิโลเมตร กว่าจะมาถึงทางเข้า แวะพักเหนื่อย ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกซักหน่อย มีผู้คนมากมายอาสาถ่ายรูปให้ บ้างก็แบบแลกกัน เราถ่ายให้เค้า เค้าถ่ายให้เรา..ก็ว่ากันไป



ข้ามสะพานมา เป็นสวนหย่อม ให้ได้พักเหนื่อย เนื่องจากตัวปราสาท ตั้งอยู่บนเนินเขา การเดินทางมาที่นี่ จึงเหมือน การเดินขึ้นเนิน ค่อยๆสูงขึ้นทีละนิดๆ พักได้ก็พักกันก่อน



เราได้รับการต้อนรับด้วยมวลดอกไม้หลากสี โดยเฉพาะสีชมพูสด สะท้อนแสงเข้าตาอย่างแรง ถามคนญี่ปุ่น ได้ความว่า ชื่อดอก ซูซูจิ / Tu Tu Ji สวยงามได้ใจ

จากนั้น พวกเราก็เริ่มไต่เนิน เข้าสู่หอคอยหลัก ของปราสาทโอซาก้า ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สามารถ มองเห็นเมืองโอซาก้าได้ทั้งเมือง... แต่ที่แน่ๆ เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน..ฮา

ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ๆ ยิ่งมองเห็นสถาปัตยกรรม อันสวยงามในสไตล์ของประเทศญี่ปุ่น ที่โครงสร้างของปราสาท จะมีลักษณะเช่นนี้



แต่ลักษณะเด่น ของปราสาทโอซากาแห่งนี้ นั่นก็คือ ตรงหลังคา จะประดับไปด้วยรูปทรงปลาโลมา ,รูปทรงเสือ ,รูปทรงดอกไม้ ซึ่งผ่านการแกะสลัก และนำไปชุปด้วยทองคำ ประดับไว้เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น และสวยงาม

มองจากภายนอก จะเห็นรูปแกะสลักเสือ และดอกไม้ ได้อย่างชัดเจน ส่วนรูปทรงปลาโลมา จะถูกประดับไว้ตามยอดของหลังคา นับได้ประมาณ 8 ตัว เราสามารถมองเห็นรูปปลาโลมาได้อย่างชัดเจน เมื่อเข้าไปภายในปราสาท ณ จุดชมวิว... ว่าแล้ว ก็เข้าไปในปราสาทกันดีกว่า...

ก่อนจะเข้าตัวปราสาท จะต้องซื้อตั๋วเข้าไป ค่าเข้าชมคนละ 600y เปิดตั้งแต่เวลา 9.00-17.00 น. มองเห็นคนรอต่อคิว ซื้อตั๋วมากมาย เลยถ่วงเวลา มาถ่ายรูปกับปราสาทกันซักหน่อย..



เมื่อเข้ามาภายในปราสาท ที่ปัจจุบันกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า เมื่อเข้าไปถึงจะพบกับประวัติ และเรื่องราว ของวีรบุรุษผู้ก่อสร้างปราสาทแห่งนี้ นั่นคือ ท่าน ฮิเดะโยชิ โทะโยะโตะมิ



เราเริ่มต้นจากการเดินชม วีดีโอจำลองการต่อสู้ , เรื่องราว , ประวัติศาสตร์ของโอซาก้าในสมัยนั้น

นิทรรศการสงครามที่ปราสาทโอซาก้า

มีโมเดลหุ่นจำลอง แสดงการต่อสู้ ของนักรบในตระกูล โทะโยะโตะมิ

ฉากจำลองการรบ ที่ถูกกล่าวขวัญในเรื่องของความกล้าหาญของนักรบ ที่มีจำนวนน้อยกว่า แต่สามารถเอาชนะกองทัพที่ใหญ่กว่า ด้วยกลศึกอันแยบยล...

นิทรรศการ แสดงการนำก้อนหินมาใช้เพื่อสร้าง เป็นรากฐานกำแพงหินสูง เพื่อป้องกันการบุกรุกจากข้าศึก โดยนำหินแต่ละก้อนมาวางทับซ้อนกัน อย่างแน่นหนา โดยไม่ได้ทำการตัดหินเลยแม้แต่น้อย..

ชั้นบนสุด จะเป็นจุดชมวิวเมืองโอซาก้า แบบ 360 องศา และสามารถชมรูปแกะสลักปลาโลมา ที่อยู่ตามจั่วหลังคาได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ที่ชั้น 2 ยังมีการจัดแสดงสิ่งประดับ ซึ่งใช้ตกแต่งรอบด้านนอกของปราสาท อย่างเสือทอง นักท่องเที่ยวสามารถชมได้อย่างใกล้ชิด

ตราดอกเบญจมาศ ที่ประดับอยู่ตรงหน้าบัน ของปราสาท และยังมีชุดนักรบโบราณให้นักท่องเที่ยว ได้เช่าใส่ถ่ายรูปอีกด้วย

มาเที่ยวที่ปราสาทแห่งนี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับผู้สุงอายุโดยเฉพาะลิฟท์ ไปยังชั้นต่างๆ เรียกว่า ทุกคนมีสิทธิ์มาเที่ยว และเข้าชมได้อย่างเท่าเทียมกัน

หอคอยภาพนอกมี 5 ชั้น ภายในมี 8 ชั้น อิ่มเอมกับการชมปราสาท กันได้อย่างมีความสุข ได้รับความรู้ ความเพลิดเพลินเต็มอิ่มกันไป



ปราสาทโอซาก้า เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญ ของเมืองโอซาก้า และ ประเทศญี่ปุ่น แต่ละปี มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวปราสาทแห่งนี้มากมาย เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ กันเลยทีเดียว

สั่งลา ปราสาทโอซาก้ากันอย่างชื่นมื่น.. จากนั้น ก็เดินเที่ยวชมสวนกันต่อไป

สัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวย



และที่สวนแห่งนี้ เราได้พบกับต้น ชิบะซากุระ / pink moss ที่เพียรพยายาม มองหามัน ตอนไปเที่ยว ที่ทะเลสาบคาวาคูชิโกะ เป็นแนวทางเดินสวยงามมาก

ปล่อยให้เดินตามหาซะนาน ที่แท้ก็กำลังเบ่งบานอย่างงดงาม ที่เมืองโอซาก้า นี่เอง สวยสด ได้ใจจริงๆ

เดินชมสวนไปเรื่อยๆ ญี่ปุ่นเป็นประเทศ ที่มีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ไว้มากมาย สำหรับ ให้ผู้คนได้พักผ่อน เป็นปอดใจกลางเมือง ได้เป็นอย่างดี



ว้าว..แล้วเราก็ได้มาพบกับกิจกรรมดูนก ของคนญี่ปุ่น ต้องร้องว๊าว.. อุปกรณ์ส่องนก แต่ละคน ..สุดยอด

ท้ายที่สุด ก็เป็นร้านขายต้นไม้ แบบแนวสวนจตุจักร วางขายสองริมทาง ก่อนขึ้นรถไฟใต้ดิน สวยงามมากก

น่าซื้อมาก แค่ต้นละ 100y, 200y เอง เรามีเหรียญ 100 y เยอะมากกก วันนี้ วันสุดท้ายด้วย แลกกลับก็ไม่ได้ อยากซี้อ แต่ไม่กล้า...

ใครชอบแบบใหน เลือกเอา..

เพลิดเพลินจริงๆ

ต้นซากุระแคระ ใครสนใจบ้างเอ่ย.. อิ่มใจกันไป

ข้ามสะพาน เพื่อมานั่ง JR Loop line กลับ... ถนนที่เมืองโอซาก้า ช่างโล่ง เสียนี่กระไร..



บ๊ายบายเมืองโอซาก้า ลาก่อนประเทศญี่ปุ่น พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการ..ฮา ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตาม ..Bye