เมื่อพายุเข้า..ที่ปักษ์ใต้

ภัยพิบัติที่ภาคใต้ โดยเฉพาะที่จ.สงขลา นอกจากจะประสบกับภัยจากน้ำท่วม อย่างชนิดตั้งตัวไม่ทันแล้ว ยังมีภัยจากพายุดีเปรสชั่น ที่เข้ามาถล่มบริเวณอำเภอที่มีอาณาเขต อยู่ติดกับทะเล เริ่มจาก อ.เมือง , อ.ควนเนียง และที่หนักสุด คือที่อ.สทิงพระ ซึ่งถือได้ว่าเป็นศูนย์กลาง ที่โดนอิทธิพลจากดีเปรสชั่นลูกนี้ กระหน่ำเข้าอย่างเต็มๆ ช่วงเวลาที่เรารอให้น้ำท่วมที่อ.หาดใหญ่ ลดลงนั้น เราและสามี ได้เดินทางไป อ.ควนเนียง ซึ่งเป็นบ้านของพ่อแม่ของสามี เพื่อไปดูว่า พ่อแม่เป็นอย่างไรบ้าง ระหว่างทางเราก็พบกับสภาพอย่างที่เห็นในภาพ ตลอดทาง...


สวนยางพารา ที่ อ.ควนเนียง ล้มระเนระนาด ทั้งที่ล้มจากการที่อุ้มน้ำไว้มากเกิน พอถูกลมพายุซัดกระหน่ำก็ล้มลง กับที่โดนพลังลมพายุพัดหมุนต้นยางเป็นเกลียว หักเป็นท่อน อยู่เกลื่อนไปทั้งสวน ในภาพบน เป็นสวนยางใหญ่วัยฉกรรจ์ กำลังให้น้ำยางแบบเต็มที่...


ในภาพ เป็นสวนยางวัยไม้ใกล้ฝั่ง ล้มเกือบทั้งสวน หากเป็นสวนประเภทนี้ จะสามารถขายไม้ยาง ได้ในราคาที่ดี ปลอบใจชาวสวนได้...


สวนยางขนาดวัย เจ็ดปี เป็นสวนยางกำลังจะได้กรีดยาง หลังจากที่ชาวสวน ต้องเพียรพยายามดูแลมาเป็นเวลา 7 ปี ความหวังพังทะลายในทันที... เพราะทั้งสวนเหลือเพียงไม่กี่ต้นเท่านั้นเอง เท่ากับชีวิตต้องเริ่มต้นกันใหม่


สวนนี้เป็นยางหนุ่ม เริ่มกรีดยางได้ 1-2 ปี เริ่มมีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ต้นยางล้มไป 70 เปอร์เซ็นต์ ไม้ยางที่ล้มจะถูกกดราคา เพราะยังไม่ได้ขนาด ที่สำคัญ เจ้าของอาจจะต้องตัดสินใจปลูกใหม่ เริ่มใหม่ เพราะที่ยังเหลือนั้น น้อยเกินไป สำหรับการกรีดยาง...


นอกจากเรื่องของสวนยางพาราแล้ว ที่เรายังพบเห็นเป็นระยะๆ ก็คือ ต้นไม้ใหญ่ล้มทับบ้านเรือน โชคยังดี ที่ส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต แต่ภาพที่เห็นก็อดใจหายไม่ได้ กับการที่พายุเข้าถล่มในครั้งนี้...


ต้นไม้ที่เห็นในภาพ เป็นต้นกอ หรือลูกกอ ที่คนใต้นิยมนำมาคั่ว กินแบบเกาลัดนั่นแหละ ต้นนี้มีอายุนับร้อยปี เป็นต้นไม้เก่าแก่ สมัยพ่อแม่ของเจ้าของบ้านยังมีชีวิตอยู่ ความจริงต้นไม้นี้อยู่ห่างจากตัวบ้านพอสมควร แต่ด้วยลำต้นที่ยาวและใหญ่ ทำให้มันสามารถล้มมาถึงบ้านได้ สิ่งหนึ่งที่เรามองเห็นได้นอกเหนือจากความเสียหายที่เกิดขึ้น นั่นก็คือเรื่องการมีต้นไม้ใหญ่อยู่ใกล้บ้าน น่าจะเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับบ้านเรือน เป็นอันดับต้นๆ เสียแล้ว...


เนื่องจากต้นไม้ใหญ่ ไม่มีรากแก้วนั่นเอง เมื่อไรมันโดนพายุซัดกระหน่ำ ก็จะไม่มีอะไรมาฉุดรั้งไว้ได้ ความเสียหายก็จะตามมา ให้พวกเราพึงระวังต้นไม้ใหญ่ ที่โตเร็วทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่ไม่มีรากแก้วทั้งสิ้น ...อันตรายจริงๆ


ต้นไม้ใหญ่เมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์อย่างเราๆ ก็ให้เห็นถึงความใหญ่โตมโหราญ ที่หากพลาดพลั้งล้มผิดที่ผิดทาง ความสูญเสียก็อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในครั้งนี้ เราและสามีขับรถไป ก็ให้หดหู่ใจ อากาศวิปริตแปรปรวน สิ่งที่ไม่เคยเกิด ไม่น่าจะเกิด มันก็เกิดขึ้น ถามผู้เฒ่าผู้แก่ ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยพบเจอ...


ในคืนวันที่พายุมา พ่อแม่เล่าให้ฟังว่า เสียงลมหวีดวิ๊วๆ ดังโหยหวลเหมือนเสียงฝูงผีเปรต เหมือนมันจะพัดเอาบ้านทั้งหลังไป พ่อแม่และน้อง ที่นอนอยู่บนชั้นบน ต่างมารวมตัวนอนกันที่ชั้นล่าง หน้าห้องน้ำ บางทีห้องน้ำห้องเล็กๆ อาจช่วยได้ ทุกคนหวาดผวาไปตามๆกัน คนที่อยู่ติดกับทะเล เล่าว่า ภาพที่เห็น พายุหมุนมาเหมือนกรวยสีแดง ขนาดใหญ่ พัดเข้าหาฝั่ง และก่อนที่จะถาโถมขึ้นฝั่ง ก็ดึงเอาน้ำทะเลยกตัวขึ้นมาราวกับสึนามิ แล้วก็เทลงมา... กระชังเลี้ยงปลากระพงแถวชายฝั่งแถบทะเลสาบสงขลา ไม่มีเหลือ ความเสียหายนับร้อยล้านบาท สิ้นเนื้อประดาตัว พอๆกับชาวสวนยางพารา ...


นับเป็นช่วงเวลาที่คนใต้ เศร้าใจ สลดหดหู่ ที่สุด ช่วงเวลาหนึ่ง อีกไม่กี่วันจะถึงวันลอยกระทง หวังว่ากระทงจะนำความทุกข์ใจ ลอยไปกับสายน้ำได้ และให้คนใต้ได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีอีกครั้ง...