เที่ยวอาณาจักรพุกาม...ด้วยตัวเอง


ณ อาณาจักรพุกาม อาณาจักรแห่งแรกของประเทศพม่า อาณาจักรโบราณมีอายุกว่า 1,000 ปี อาณาจักรที่มีศาสนาพุทธ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และที่อาณาจักรพุกามนี้ ศาสนาพุทธได้เจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด มีการสร้างองค์เจดีย์นับหมื่น นับพันองค์ จนถูกขนานนามว่า ดินแดนแห่งทะเลเจดีย์.. เหมือนดั่งย้อนอดีต เมื่อได้เหยียบย่างเมืองพุกามแห่งนี้  ....

เราออกเดินทางจากย่างกุ้งแต่เช้ามืด เพื่อมาขึ้นเครื่องบินภายในประเทศของพม่า ซึ่งจะออกเดินทางในเวลา 6 โมงเช้า เราใช้บริการของสายการบิน Air Bagan เพราะสามารถออกเป็น E-Tiket นำไปเช็คอินได้เลย โดยทำการจองจากเอเยนซี่ที่ประเทศไทย ค่าโดยสารเที่ยวเดียว ประมาณ คนละ 3500 บาท ขึ้นอยู่กับค่าเงินดอลล่าห์ ณ เวลานั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบิน นองยู ที่เมืองพุกาม...


จากสนามบิน สู่โรงแรม ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ค่าโดยสาร 5000 Kyat เช็คอินเก็บกระเป๋าเรียบร้อย จากนั้นก็จ้างรถม้านำเที่ยว ทั้งวันคันละ 15000 Kyat


การนั่งรถม้าท่องเที่ยว ไปทั้งเมืองพุกาม / Bagan ได้อารมณ์และบรรยากาศมากมาย แนะนำให้เพื่อนๆ ใช้บริการรถม้า เพราะนอกจากจะได้บรรยากาศ ยังไม่ทำลายอรรถรสในการชมทุ่งเจดีย์ ความจริงมีรถแท็กซี่บริการท่องเที่ยวทั้งวันที่สนามบิน นอกจากราคาจะสูงแล้ว เมื่อนำรถไปจอดเีทียบที่เจดีย์ต่างๆ ทำให้เสียบรรยากาศมากมาย... ทั้งในการชม และการถ่ายรูป


ท้องถนนใจกลางเมืองพุกาม ส่วนใหญ่จะเป็นรถม้า  นานๆ จะมีรถยนตร์ผ่านมาซักคัน เรียกได้ว่า นั่งรถม้า ปลอดภัยแน่นอน เพราะรถยนตร์จะต้องระวังรถม้า ในการขับขี่ร่วมกัน ในท้องถนน


งานนี้คุณสามี สนุกสนานกับการนั่งรถม้าชมวิวทิวทัศน์มากมาย โชคดีที่คนส่วนใหญ่ ยังร่วมใจ กันใช้บริการรถม้า ทำให้เมืองพุกามยังคงมีมนต์ขลัง ดึงดูดนักท่องเที่ยว ได้เป็นอย่างดี


เช้านี้เราเริ่มต้นการเที่ยวชมทุ่งเจดีย์เมืองพุกาม ตามระยะเส้นทางใกล้ ไปสู่ใกล โดยเริ่มต้นจากทิศเหนือ ซึ่งอยู่ใกล้ที่พักมากที่สุด เราได้ม้าสีขาวนำทางไป ช่วงนี้ ชีวิตก็เลยมีแต่ม้าพาไป ... นั่นเองจ้า



และเจดีย์แรกที่ไปถึง นั่นก็คือ เจดีย์ชเวสิกอง มหาเจดีย์ 1 ใน 5 พูทธบูชา ที่คนพม่าให้ความเคารพสูงสุด และต้องมาสักการะให้ได้ สักครั้งหนึ่งในชีวิต เข่นเดียวกับ มหาเจดีย์ชเวดากอง ที่เมืองย่างกุ้ง


องค์มหาเจดีย์ชเวสิกอง เป็นเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุมากที่สุด ในเมืองพุกาม โดยอัญเชิญมาจาก ศรีลังกา องค์มหาเจดีย์มีอายุราว เกือบ 1000 ปี มาแล้ว และเจดีย์ชเวสิกอง ถือว่าเป็นเจดีย์หนึ่งใน 3 แห่ง ที่เป็นต้นแบบเจดีย์ในเมืองพุกาม ...


เจดีย์ชเวสิกอง เป็นเจดีย์ทรงระฆังคว่ำ สีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจตุรัส 3 ชั้น และที่ฐานด้านล่างของเจดีย์ ล้อมรอบไปด้วยหม้่อน้ำแห่งความอุดมสมบูรณ์ และตรงมุมเจดีย์ จะมีรูปปั้น สิงห์ไถ่บาป ตามคติความเชื่อ


ที่ฐานของเจดีย์โดยรอบ มีแผ่นดินเผาเคลือบ เล่าเรื่องนิทานชาดก


หม้อน้ำแห่งความอุดมสมบูรณ์ หรือที่เรียกว่า ปูรณฆฏะ คือสัญลักษณ์มงคล ที่มีมาตั้งแต่สมัยอินเดียโบราณ ซึ่งถือเป็นการให้โชคลาภ แก่พุทธศาสนิกชนที่มาบูชา นั่นเอง


เณรน้อย ยืนบิณฑบาตร อยู่ตรงฐานด้านข้างองค์เจดีย์ชเวสิกอง เราก็ร่วมทำบุญเป็นปัจจัย ให้แก่เณรน้อย แทนข้าวปลาอาหาร


ภายในบริเวณ เจดีย์ชเวสิกอง มีหอนัต สร้างด้วยไม้ มีงานสลักไม้เก่าแก่ ระบายสี เล่าเรื่องนิทานชาดก ด้วยฝีมือที่วิจิตร งดงามมาก


เราและคุณสามี เลือกซื้อดอกมะลิ จากคุณยายชาวพุกาม เพื่อนำไปไหว้ องค์พระมหาธาตุเจดีย์ชเวสิกอง


เหล่าบรรดา ดอกไม้ ใบไม้ ที่คนพม่า นิยมนำมาไหว้องค์พระมหาเจดีย์ บ้านเราเรียกว่า ดอกมหาหงส์ ส่วนใบไม้ คือ ใบชัยชนะ ใช้ไหว้บุชาพระคู่กับดอกไม้ มีความหมายว่า มีชัยชนะต่อกิเลสทั้งหลาย ทั้งปวง หรือของที่ไม่ดี นั่นเอง ที่สำคัญ ดอกไม้ไหว้พระ จะไม่มีการเวียนนำมาใช้ซ้ำ โดยเด็ดขาด


ตามบริเวณทางเดิน จะพบคุณป้า คุณยาย นั่งดูดยาเส้น ขนาดจัมโบ้ กันอย่างดูดดื่ม ได้อารมณ์อย่าบอกใคร ที่นี่ ผู้ชายกินหมาก ผู้หญิงสูงอายุ ชอบดูดยาเส้นจ้า...


กราบลาองค์มหาเจดีย์ ชเวสิกอง ให้ม้านำทางต่อไป ตั้งใจว่าคืนนี้ ถ้ามีแรง จะมาดูไฟที่เจดีย์แห่งนี้ สุดท้าย ค่ำคืนนั้น ฝนตกอีกแล้วจ้า...


ตลอดสองข้างทาง คลาสสิค และโรแมนติคมาก เราไปช่วงปลายฝน ต้นหนาว ก็เลยได้พบกับความ ชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื่น เขียวขจี ของเมืองพุกาม ที่ปกติ จะแห้งแล้ง ดุจดั่งทะเลทราย ฝุ่นแดงกระจายตลอดทาง ถือว่าโชคดีไปอีกแบบจ้า


เจดีย์น้อยใหญ่ คลาคล่ำไปทั้งสองข้างทาง จนทำให้บางช่วง บางตอน เราก็อดไม่ได้ ที่จะให้รถม้าจอดเพื่อถ่ายรูป จนคนขับรถม้า ต้องบอกว่า เดี่ยวเจอสวยกว่านี้อีก ไปเห๊อะ...ฮา



รถม้าพาเราลัดเลาะ ไปตามเส้นทางดินแดง เพื่อไปยังเจดีย์ใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ราวภาพในฝัน เหมือนเราเดินหลงทาง อยู่กลางป่า อยู่ๆ ก็พบองค์มหาเจดีย์ โอ้..ช่างเหมือนภาพในความฝัน เสียนี่กระไร...


นี่คือองค์เจดีย์ ที่เป็นวิหาร ที่ชื่อว่า วิหารหติโลมินโล ซึ่งแปลว่า กษัตริย์ที่ฉัตรแต่งตั้ง อันเนื่องมาจาก พระมหากษัตร์ย์พระองค์หนึ่งของอาณาจักรพุกาม ทรงใช้ฉัตรเสี่ยงทายว่า โอรสพระองค์ใด ใน 5 พระองค์ จะได้ขึ้นครองราชย์ และเมื่อพระโอรสองค์ที่ได้รับการเสี่ยงทาย ได้ขึ้นครองราชย์ จึงได้สร้างวิหารเจดีย์แห่งนี้ นั่นเอง


รอบๆ บริเวณวิหารเจดีย์แห่งนี้ ชาวบ้านยังสามารถ ใช้เป็นที่ทำกิน ปลูกพืชสวน ไว้ใช้กินได้ด้วย เป็นการกำจัดวัชพืชไปในดัว เรียกได้ว่า เป็นการใช้ประโยชน์ร่วมกันได้เป็นอย่างดี

รถม้าวิ่งผ่าน เจดีย์ใหญ่น้อย มากมาย ทุกๆ เจดีย์ มีป้ายบอกความเป็นมา และชื่อของแต่ละเจดีย์ เรียกได้ว่า ถ้าใครต้องการเข้าถึงแก่นแท้ ของเมืองพุกาม ต้องใช้เวลา หลายวัน จึงจะซึมซับกันได้หมด


คุณสามี ทำท่าจะซึมซับ ไปกับมนต์ขลังของอาณาจักรพุกาม ซะแล้ว


สุดยอดอาชา ม้าที่ใช้เป็นพาหนะ จะถูกเลี้ยงอย่างดี และเมื่อนำมาวิ่งบนถนนหนทาง จะต้องปิดตา เพื่อไม่ให้ มองเห็นรถรา ขนาดใหญ่ ที่อาจวิ่งสวนมา แม้นจะปิดตา แต่มันก็สามารถนำพา ผู้โดยสารอย่างเรา มาถึงที่หมายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย


จากนั้นรถม้า ก็นำพาเรามายัง วัดเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอิระวดี มีอายุราว 200 ปี


ความจริงไม่ได้อยู่ในโปรแกรม แต่เราเห็นภาพนี้ ในหนังสือที่แจกให้อ่านบนเครื่องบินแอร์บากัน เลยนำมาให้คนขับรถม้าดู ปรากฏว่าเขารู้จัก จึงได้ลัดเลาะพามาดู นั่นเอง


เราชอบดูงานศิลปะ แบบพม่าจริงๆ โดยเฉพาะงานไม้ มีความรู้สึกว่า หากได้ชมศิลปะงานไม้แบบพม่า เหมือนได้เข้าถึงจิตวิญญาณของคนพม่า...


สวยงามมากมาย ถือเป็นงานไม้ระดับมาสเตอร์พีซ อีกชิ้นหนึ่งของเมืองพุกาม กันเลยทีเดียว ชอบมาก



จากนั้น เราก็มาถึง เจดีย์วิหารอนันดา เจดีย์ ที่รวบรวมความเป็นสุดยอดในทุกๆ ด้าน ถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอก ของเมืองพุกาม ในตำนานกล่าวไว้ว่า มีพระสงฆ์จากอินเดีย 8 รูป เดินทางมาถึงพุกาม และได้กราบทูลกษัตริย์พม่า ในเวลานั้น ว่า เคยปฏิบัติธรรมที่ถ้ำนันทมูล ในประเทศอินเดีย พร้อมทั้งบันดาลนิมิตให้พระองค์ได้เห็น พระองค์ทรงเกิดความปิติสุข จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์วิหารแห่งนี้ ซึ่งถือว่างดงามมาก ด้วยความงามขององค์พระเจดีย์ กษัตร์ย์ถึงกับสั่งให้ประหารช่างฝีมือทั้งหมด เพราะทรงเกรงว่าจะมีการทำซ้ำ...



วิหารแห่งนี้ ถือว่าเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรม สมัยพุกาม มีการคำนวณทางวิศวกรรมที่ยอดเยี่ยม และกลายเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญ ทางโครงสร้างของสถาปัตยกรรมสมัยพุกาม


ที่เสาทั้ง 4 ด้านของวิหาร ประดิษย์ฐานพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ 4 องค์ ซึ่งแกะสลักจากไม้ พระพุทธรูป ซึ่งประดิษย์ฐานอยู่ทางทิศใต้ ได้รับการกล่าวขานมากที่สุด ถึงอัจฉริยภาพของช่าง เพราะเมื่อมองจากบริเวณที่ต่างกัน ก็จะเห็นพระพักตร์ที่เปลี่ยนไป นั่นเอง


จากนั้น ก็ไปดูเจดีย์บูปยะ เจดีย์ที่เก่าแก่ที่สุด ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี ภายในประดิษย์ฐานพระบรมสารีริกธาตุ องค์จริงได้พังลงสู่แม่น้ำไปแล้ว เมื่อครั้งเกิดแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ ปี ค.ศ. 1975 ปัจจุบัน ใช้เป็นหลักหมาย ของนักเดินเรือ นั่นเอง


แม่น้ำอิรวดี อันกว้างใหญ่ไพศาล


อาหารว่าง ยามบ่าย แถวริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี


ลัดเลาะไปตามพุ่มไม้อีกครั้ง เพื่อไปชมเจดีย์ที่สูงที่สุดในพุกาม เจดีย์สัพพัญญู  ซึ่งถือว่า เป็นยุคสมัย ที่ช่างฝีมือพุกาม เปล่งประกายความสามารถถึงขีดสุด กลายเป็นเจดีย์ที่งดงามแบบพม่าอย่างแท้จริง



ความยิ่งใหญ่ของเจดีย์วิหารสัพพัญญู หากต้องการจะบันทึกความยิ่งใหญ่ของเจดีย์แห่งนี้ ต้องไปที่เจดีย์ชเวกูจี ซึ่งถือว่าเป็นจุดชมทะเลเจดีย์ ที่สวยงามอีกที่หนึ่ง ว่าแล้วก็บันทึกความยิ่งใหญ่ ด้วยภาพคู่กันซะเลย



มุมมองทะเลเจดีย์ จากวิหารเจดีย์ชเวกูจี ที่นี่ เหมาะสำหรับใครหลายคน ที่กลัวความสูง วิหารแห่งนี้ไม่สูงมากนัก ผู้สูงอายุสามารถ ปีนป่ายขึ้นบันไดไปได้อย่างสบายๆ



จากนั้น ก็ไปชมผลงานอันวิจิตรของช่างชาวพุกามอีกหนึ่งที่ นั่นก็คือ เจดีย์วิหารจุฬามณี เป็นการออกแบบผสมผสาน ระหว่างศิลปะพุกามยุคแรก และยุคกลาง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเจดีย์ที่สวยงาม และเป็นศิลปะพม่าอย่างแท้จริง


สวยงามอย่างนี้ ต้องถ่ายเป็นที่ระลึกกันสักหน่อย ได้อารมณ์และบรรยากาศจริงๆ คุณสามีจัดไป...



รถม้า ก็พาลัดเลาะ ไปตามเส้นทางคดเคี้ยว เป็นหลุม เป็นดอน รถโยกไปทั้งคัน แต่ก็สนุกดี เราไปกันที่ เจดีย์วิหารธรรมยางยี รูปทรงปิรามิด ที่ใหญ่ที่สุด ในพุกาม


กษัตริย์ผู้ทรงสร้าง ตั้งใจจะสร้างให้เป็นเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทุกด้าน หากช่างคนใดทำงานได้ไม่ถูกพระทัย ก็จะโดนประหาร และนี่ถือว่า เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพุกาม


และท้ายที่สุด ของวัน ต้องไปชมทะเลเจดีย์ที่ เจดีย์ชเวสันดอว์ ที่มีฐานลดหลั่นกันมา เป็นจำนวน 5 ชั้น ใครกลัวความสูง ไม่ต้องมาเลย สู๊ง..มาก เสียวมาก ยิ่งชั้นบนๆ ความกว้างของทางเดินยิ่งแคบลงๆ แต่โชคยังดี เค้าทำราวเหล็กไว้ให้ยึดจับ งานนี้มีเสียว แต่ก็สนุกดี... ขึ้นไปแล้วบรรยากาศ สุดยอดมากกกก..


บรรยากาศปลายฝน ต้นหนาว มองไปทางไหนก็เห็นทุ่งเจดีย์ คละเคล้าไปกับหญ้าเขียวขจี ได้บรรยากาศที่สุด...


มองเห็นเจดีย์ธรรมยางยี ตั้งตระหง่านอยู่กลางพนาไพร จากจุดนี้ทำให้มองเห็นว่า เจดีย์นี้เป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุด ในพุกามจริงๆ


การสร้างเจดีย์ มีไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำอิรวดี มองไปถึงภูเขา ช่างเป็นภาพที่สวยงาม ประทับใจไม่รู้ลืม...


การสร้างเจดีย์ ถือว่าเป็นการทำบุญ และได้บุญมาก เป็นความเชื่อของคนพม่า ยุคทองของพุทธศาสนา ในอาณาจักรพุกาม จึงมีการสร้างเจดีย์มากมาย นับพัน นับหมื่นองค์...


พวกเราชื่นชม ด้วยความสุขใจ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง จากการปีนบันไดมา 5 ชั้น ลมอ่อนๆ พัดพาเหงื่อหายไปในบัดดล


ฝั่งนี้ มองเห็นเจดีย์สัพพัญญู ตั้งเด่นเป็นสง่าเช่นกัน คละเคล้าไปกับการเตรียม พื้นที่เกษตรกรรม ของชาวไร่ ชาวสวน


เส้นทางสายดินแดง นำพารถม้า ไปยังเจดีย์ต่างๆ วันนี้ ทั้งเหนื่อย และสนุก ทั้งประทับใจ



ไม่ลืมที่จะบันทึกภาพกับคุณสามี กับทุ่งทะเลเจดีย์ ณ อาณาจักรพุกามแห่งนี้... รักนะ พุกาม..




อำลาแล้วอาณาจักรพุกาม ภาพนี้จะตราตรึงในหัวใจ ตลอดไป...



พรุ่งนี้เราจะเดินทาง ไปเมืองมัณฑะเลย์ เมืองหลวงแห่งราชวงศ์สุดท้าย ของพม่า พม่าสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ ที่เมืองแห่งนี้ ไปดูความรุ่งเรืองก่อนที่พม่าจะเสียเมืองให้กับอังกฤษ และปิดตัวเอง จากโลกภายนอก ... เพื่อนๆ อย่าลืมติดตามนะจ๊ะ

เที่ยวเมืองมัณฑะเลย์











Unknown  – (6/11/56)  

สวยสุดยอดเลย ค่ะ ^^

วิภาพร –   – (12/11/56)  

เที่ยวพุกาม ช่วงปลายฝนต้นหนาว มองดูทุ่งทะเลเจดีย์ จะคละเคล้าไปด้วย ต้นไม้สีเขียว ไม่มีฝุ่น สวยงามมากมายจริงๆค่ะ

ขอบคุณนะคะ ที่แวะมาทักทายกัน

Unknown  – (20/11/56)  

สุดยอดเลยคะ ไม่ทราบวางแผนการชมเจดีย์อย่างไรคะ เราต้องบอกคนขับรถม้าเอง หรือเค้าพาไปคะ ...ไม่ทราบพักที่ไหนคะ ....รูปสวยนางแบบงาม (นายแบบพอทนคะ อิอิ) ขอบคุณนะคะ

วิภาพร –   – (21/11/56)  

โดยปกติ คนขับรถม้าทุกคน จะพาไปยังสถานที่ ที่เป็นที่น่าสนใจหรือไฮไลท์ อยู่แล้วค่ะ ตามระยะทาง จากที่พัก ....เราเพียงแต่บริหารเวลา ให้เพียงพอกับช่วงเวลาที่เราอยู่ที่เมืองพุกาม ให้เหมาะสมเท่านั้นเองค่ะ

ส่วนที่พัก พักที่โรงแรม yar kinn tha ก็โอเคค่ะ จองผ่านทาง agoda

ขอบคุณนะคะที่แวะมาทักทาย ... ขนาดแค่พอทน คุณสามียังยิ้มแก้มปริเลยค่ะ..ฮา

Unknown  – (3/1/61)  

Ruby888 ช่องทางการเดิมพันที่เต็มไปด้วยความบันเทิงมากที่สุด

จีคลับ คาสิโนออนไลน์ศูนย์รวมการเดิมพันที่ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดและปัจจุบันการแทงบอลออนไลน์เป็นตัวเลือกที่นักพนันสามารถเข้ามาร่วมสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ไปกับการเดิมพันที่จะสร้างโอกาสที่ดีที่สุดให้แก่นักพนันได้เป็นอย่างดีและการได้เข้ามาร่วมสนุกกับการเดิมพันทุกชนิดของคาสิโนออนไลน์ยังสามารถทำให้นักพนันเข้ามาร่วมสัมผัสกับการเดิมพันที่จะสร้างความประทับใจให้แก่นักพนันได้อย่างเต็มที่และไม่ว่านักพนันจะเดิมพันในรูปแบบใดรับรองได้ว่าการบริการของเรานั้นจะทำให้นักพนันประสบความสำเร็จและมีประสบการณ์ในการเดิมพันได้มากที่สุดโดยทีมงานของเรานั้นพร้อมให้บริการแก่นักพนันด้วยความประทับใจบริการแก่สมาชิกทุกคนโดยตรงตลอดเวลาจากการเล่นคาสิโนออนไลน์หรือแม้แต่การแทงบอลออนไลน์ซึ่งเป็นเกมยอดฮิตที่ทางคาสิโนพัฒนาและออกแบบให้สามารถเล่นบนคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือไม่ว่าจะอยู่พื้นที่ใดก็ไร้ปัญหาในเรื่องของการเข้าถึงโดยเราให้บริการอย่างสะดวกรวดเร็วทันใจไม่ทำให้นักพนันต้องเป็นกังวลใจอย่างแน่นอนกับทางเลือกที่ดีที่สุดของการเข้ามาเลือกเล่นพนันที่นักพนันเข้ามาร่วมสนุกได้อย่างมีประสิทธิภาพกับคาสิโนออนไลน์ Ruby888

แสดงความคิดเห็น

Related Posts with Thumbnails