เวลาใด คือ เวลาที่สำคัญที่สุด โดย ท่าน ว. วชิรเมธี
เวลาใด คือ เวลาที่สำคัญที่สุด
คำตอบ คือ เวลาขณะปัจจุบัน นั่นคือ เวลาที่เรากำลังนั่งหายใจ อยู่ในขณะนี้ เพราะชั่วโมงที่แล้วมันก็จบไปแล้ว ชั่วโมงหน้ามันยังมาไม่ถึง ชั่วโมงนี้ชีวิตเป็นของเราทั้งหมด ดังนั้น มันจึงสำคัญที่สุด เพราะเวลาชั่วโมงนี้ นาทีนี้ วินาทีนี้ เราสามารถบริหารจัดการชีวิตของเราได้ พระพุทธศาสนาจึงให้ความสำคัญกับ "ปัจจุบันขณะ" มาก คือ ถ้าเราทำปัจจุบันดี อดีตก็จะดี อนาคตก็จะดี หลักการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนาคือ "ให้ตื่นรู้ อยู่กับปัจจุบัน" แค่นี้เอง
พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ถ้าตื่นอยู่รู้ อยู่กับปัจจุบัน ผิวพรรณจะผ่องใส..." ทำไมผ่องใส เพราะอดีตทำร้ายเราไม่ได้ อนาคตทำร้ายเราไม่ได้ แต่คนส่วนมาก บางที นั่งอยู่ที่นี่ แต่ใจไปอยู่ในอดีตบ้าง อยู่ในอนาคตบ้าง ใครอยู่ในปัจจุบันขณะ ณ เวลานี้ได้ จะประเสริฐที่สุด กวีคนหนึ่งเขาเคยเขียนคุณค่าของเวลาว่า...
" วันไหนๆ ไม่สำคัญเท่าวันนี้ เป็นวันที่สำคัญกว่าวันไหน
ถึงพรุ่งนี้มะรืนนี้ดีอย่างไร ก็ยังไม่สำคัญเท่าวันนี้ "
ถ้าเราบริหารจัดการวันนี้ให้ดีที่สุด มันก็เป็นวันวานที่ดีได้เป็นรากฐานที่ดี ของวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าเราทำวันนี้ไม่ดี เมื่อมันไปเป็นวันวาน แล้วเราหันกลับไปมอง "ตายแล้ว อดีตของฉัน กระดำกระด่างเหลือเกิน" คงไม่ต้องถามถึงอนาคต เพราะถ้าปัจจุบันไม่ดีแล้ว มันจะเป็นรากฐานของอนาคตที่งดงามได้อย่างไร ฉะนั้นเวลาสำคัญที่สุด คือ เวลาขณะปัจจุบันนี้ ตอนที่เรายังหายใจอยู่ ดูแลให้ดีที่สุด
มีคนถามท่านพุทธทาสว่า "จะใช้ชีวิตอย่างไร ให้ดีที่สุด"
ท่านบอกว่า "ใช้ชีวิตให้เหมือนกับวันนี้ให้เป็นวันสุดท้าย"
ถ้าเราคิดว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต เราจะทำทุกอย่าง ที่มันเป็นคุณภาพ อาตมาเคยถามลูกศิษย์ที่มหาวิทยาลัยเกษตรว่า "ถ้าเหลือเวลาหนึ่งชั่วโมง เธอจะอยู่ในโลกนี้อีกหนึ่งชั่วโมง ให้หลับตานึกดูซิ ในชีวิตเธอมีคนที่สำคัญในชีวิตกี่คน" ลูกศิษย์หลับตาแล้วขอต่อเวลา เขาบอกว่า "5 นาที นึกไม่ทันครับพระอาจารย์ คนสำคัญมีเยอะจริงๆ"
ปกติเราจะไม่นึกว่าในชีวิตนี้ใครสำคัญบ้าง และจะทำดีต่อเขาอย่างไร ต่อเมื่อถึงเวลานาทีเป็นนาทีตาย เราจึงจะเริ่มนึกว่า "ใครบ้างสำคัญ ตายแล้วเหลืออีกหนึ่งชั่วโมงฉันจะตาย ฉันจะทำอะไรกับใครดี ตอนนี้พ่ออยู่ในรถ รถก็ติดอยู่โน้นบางนา ตายแล้วไม่ทันแล้ว แม่ละ ตายแล้วแม่อยู่ใหน" ถามหาแม่ ถามหาสามี แต่กลับลืมลูก "ลูกอยู่ไหน อ้าว.. ลูกยังอยู่ที่โรงเรียน" หนึ่งชั่วโมงอย่างไรมันก็ไม่พอ ถ้าเราจะมาทำดี กับคนที่เรารักทั้งหมด ในเวลาอันจำกัดแบบนี้ คงเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น ขอให้เราทำดี กับคนที่เรารักมาตั้งแต่ต้น อย่างสม่ำเสมอ ในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิตจะได้ไม่ต้องเร่งรีบเช่นนี้